คณะ/สำนัก/หน่วยงาน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ชื่อโครงการ การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การผลิตพืชอาหารสัตว์คุณภาพดีเพื่อใช้ในการเลี้ยงปศุสัตว์แบบยั่งยืน ปีที่ 4” ลักษณะโครงการ การฝึกอบรม อบรมเชิงปฏิบัติการ ความสอดคล้องกับมาตรการ / นโยบายของมหาวิทยาลัย | |||
ผู้รับผิดชอบ |
ดร.อารีรัตน์ ลุนผา | คุณวุฒิ : ปริญญาเอก สาขา : สัตวศาสตร์ (วิชารองพืชไร่) |
ประสบการณ์ : - เจ้าหน้าที่วิจัยโครงการพืชอาหารสัตว์ คณะเกษตรศาสตร์ ม.อุบลราชธานี ปี 2543-2549
- อาจารย์ประจำภาควิชาสัตวศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ ม.อุบลราชธานี ปี 2550-ปัจจุบัน ความเชี่ยวชาญ : - พืชอาหารสัตว์ การจัดการทุ่งหญ้า และอาหารสัตว์ |
|||||||||||||||||
นายประพนธ์ บุญเจริญ | คุณวุฒิ : ปริญญาโท สาขา : พืชศาสตร์(การผลิตพืชไร่ ) |
ประสบการณ์ : 1.การวิจัยด้านการจัดการพืชอาหารสัตว์ แบบยั่งยืน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
2.การวิจัยด้านการจัดการพืชอาหารสัตว์ ในสภาพพื้นที่ลุ่มน้ำท่วมขัง
3.การวิจัยด้านเทคนิคการจัดการพืชอาหารสัตว์ ในสภาพแปลงหญ้าผสมถั่วพืชอาหารสัตว์ ความเชี่ยวชาญ : ด้านพืชอาหารสัตว์ และด้านการผลิตข้าว |
|||||||||||||||||
ดร.นรินทร บุญพราหมณ์ | คุณวุฒิ : ปริญญาเอก สาขา : Ph.D.(Animal Production) Humboldt-Universitat zu Berlin BerlinGermany.2002. วท.ม.(เกษตรศาสตร์) สัตวศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ขอนแก่น ประเทศไทย.2532. วท.บ.(เกษตรศาสตร์) มหาวิทยาลัยขอนแก่น ขอนแก่นประเทศไทย.2529. |
ประสบการณ์ : - โครงการฝึกอบรมเรื่องการพัฒนาอาชีพการปลูกหญ้าและถั่วพืชอาหารสัตว์อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี
- ประธานหลักสูตร วท.ม.สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศการเกษตรและพัฒนาชนบท
- โครงการความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาความยากจนพัฒนาสังคมและสุขภาวะจังหวัดอุบลราชธานี
- โครงการการพัฒนาโจทย์วิจัยเรื่องปัญหาเกี่ยวกับข้อตกลงธุรกิจเกษตรแบบมีพันธะสัญญาระหว่างอุบลราชธานี-จำปาสัก ความเชี่ยวชาญ : ระบบสารสนเทศการเกษตรและพัฒนาชนบท |
|||||||||||||||||
นางสาวนพมาศ นามแดง | คุณวุฒิ : ปริญญาโท สาขา : วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต (เกษตรศาสตร์) |
ประสบการณ์ : - ความเชี่ยวชาญ : - |
|||||||||||||||||
นายวันชัย อินทิแสง | คุณวุฒิ : ปริญญาตรี สาขา : สัตวศาสตร์ |
ประสบการณ์ : 17 ความเชี่ยวชาญ : การผลิตดคนม |
หลักการและเหตุผล ปัจจุบันนี้ทางภาครัฐได้มีนโยบายที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรทุกกลุ่ม/หมู่เหล่าและทุกชุมชนได้หันมาทำการพัฒนาด้านการเกษตรกรรมในรูปแบบที่เพิ่มมูลค่าสิ้นค้าต่อหน่วย เพื่อให้ทุกกลุ่ม/ชุมชนสามารถประกอบอาชีพและมีรายได้พึ่งพาตนเองได้ รวมทั้งสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมชุมชน และมีการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติร่วมกันอย่างยั่งยืน อีกทั้งเป็นแนวทางหนึ่งที่จะจัดเตรียมความพร้อมของเกษตรกรให้มีความรู้ทางด้านการผลิตพืชอาหารสัตว์เพื่อจำหน่ายทั้งในรูปผลิตผลหญ้าแห้ง หญ้าหมัก และการผลิตเมล็ดพันธ์ ต้นกล้าพันธุ์ เพื่อการพัฒนาทางด้านอาชีพและผลิตอาหารหยาบคุณภาพดีให้เพียงพอสำหรับเลี้ยงปศุสัตว์ในอนาคต อันเป็นการลดการใช้อาหารข้นราคาแพง และเป็นการลดการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ รวมทั้งมีการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายและส่งเสริมให้เกษตรกรของประเทศไทยมีรายได้ดีขึ้น และมีความเป็นอยู่ที่ดี กินดีอยู่ดี
อนึ่งในช่วงระยะเวลา ปี 2554 การดำเนินการโครงการฯ การจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการให้แก่ เกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ โคและกระบือ ผู้ปลูกหญ้าขาย และหน่วยงานต่างๆ จำนวน 115 คน ประกอบด้วย 1) การจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการฯ ณ ศาลากลางบ้าน หมู่บ้านวังอ่าง ตำบลหนองแสงใหญ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ในระหว่างวันที่ 21–22 มีนาคม 2555 เป็นเวลา 2 วัน มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯจำนวน 55 คน และ2) จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการฯ ณ ศาลาการเปรียญวัดบ้านฝางเทิง หมู่บ้านฝางเทิง ตำบลฝางคำ อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ในระหว่างวันที่ 25–26 เมษายน 2555 เป็นเวลา 2 วัน มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯจำนวน 60 คน
เกษตรกรได้ความรู้ด้านการผลิตพืชอาหารสัตว์คุณภาพดีเพื่อใช้ในการเลี้ยงปศุสัตว์ ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งเน้นให้เกษตรกรได้รับความรู้ด้านการปลูกและจัดการแปลงทุ่งหญ้าและถั่วพืชอาหารสัตว์ ให้สามารถนำไปใช้ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ อันจะส่งผลต่อการลดปัญหาการขาดแคลนหญ้าพืชอาหารสัตว์ และลดต้นทุนการผลิตซึ่งเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร สนับสนุนโครงการของรัฐบาลที่ส่งเสริม “ การเลี้ยงโคและกระบือไว้ใช้งานและเป็นธนาคารออมสินแก่เกษตรกร” และเป็นการเผยแพร่งานด้านวิชาการแก่ชุมชน ของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
การดำเนินการจัดฝึกอบรมฯควรจัดในช่วงเดือน มกราคม ถึง เมษายน ของทุกปี สำหรับการจัดฝึกอบรมครั้งนี้มีความเหมาะสมทั้งช่วงเวลา สถานที่ รูปแบบการจัดฝึกอบรมฯ วิทยากร สื่อการเสนอภาคบรรยาย วัสดุอุปกรณ์ปฏิบัติงานภาคสนาม อาหารและอาหารว่าง คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 86.50
ส่วนการประเมินภายหลังการฝึกอบรมฯ พบว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ทั้ง 2 กลุ่มในจังหวัดอุบลราชธานี ได้ทำการปลูกหญ้าพืชอาหารสัตว์เพื่อเลี้ยงโคเนื้อและกระบือ คิดเป็นร้อยละ 98.50 และเกษตรกรมีพื้นที่สำหรับการปลูกสร้างแปลงหญ้าเฉลี่ย 2.54 ไร่ต่อฟาร์ม มีโคและกระบือ เฉลี่ย 4.50 ตัวต่อครัวเรือน จากการสัมภาษณ์และสอบถามข้อมูลของเกษตรผู้เลี้ยงโคและกระบือ พบว่า เกษตรกรมีทัศนคติที่ดีต่อการปลูกหญ้าพืชอาหารสัตว์ ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่มีความพึงพอใจ เนื่องจากปศุสัตว์ที่เกษตรกรเลี้ยงมีสุขภาพดีขึ้น และที่สำคัญการปลูกหญ้าช่วยทำให้การเลี้ยงโคและกระบือ มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ช่วยลดเวลาและแรงงานที่ออกไปทำการเกี่ยวหญ้าธรรมชาติมาเลี้ยงได้เป็นอย่างมาก และ สามารถมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมในชุมชนมากขึ้น
กลุ่มเกษตรกรที่ผ่านการฝึกอบรมฯ สามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ มากกว่าร้อยละ 90 และการมีรายได้เสริมจากการปลูกหญ้าพืชอาหารสัตว์ยังไม่เกิดมูลค่าจากการจำหน่ายขึ้น โดยเกษตรกรได้นำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมฯไปลดค่ายใช้จ่ายในด้านการจัดซื้ออาหารหยาบเสริม ประมาณ 1,000-2,000 บาทต่อเดือน( ร้อยละ 83 ) ขณะที่ในด้านคุณภาพชีวิตซึ่งสามารถประมาณเป็นตัวเงินได้ 2,500 – 3,000 บาทต่อเดือน และเป็นการนำความรู้ไปใช้พัฒนาอาชีพ ซึ่งได้นำความรู้ไปพัฒนาใช้หลังการอบรมภายใน 1 เดือน (ร้อยละ 86) ซึ่งเป็นการนำความรู้ไปใช้ในครอบครัว (ร้อยละ 78)
ด้านสุขภาพสัตว์ พบว่า ปศุสัตว์ที่เลี้ยงมีความอ้วน สีผิวมัน และน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเปรียบเทียบ กับสุขภาพสัตว์ก่อนการให้กินหญ้าสดที่ได้จาก แปลงปลูกหญ้าพืชอาหารสัตว์ โดยมีราคาโคเนื้อเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20 บาทต่อตัวต่อวันต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
จากการศึกษาแบบสำรวจ ยังพบว่า กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์โคเนื้อ มีความสนใจและตั้งใจ ที่จะพัฒนาทุ่งหญ้าพืชอาหารสัตว์ แต่ยังมีปัจจัยที่สำคัญที่มีต่อการพัฒนาทุ่งหญ้าพืชอาหารสัตว์ของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี มีดังต่อไปนี้
จากผลการประเมิน ของโครงการบริการวิชาการแก่สังคมชุมชน ชื่อโครงการ “การผลิตพืชอาหารสัตว์คุณภาพดีเพื่อใช้ในการเลี้ยงปศุสัตว์แบบยั่งยืน ปีที่ 3” พบว่า ด้านกระบวนการและขั้นตอนการให้บริการนั้น มีระดับความคิดเห็นมาก - มากที่สุด มากกว่าร้อยละ 37.31 ด้านเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ มีระดับความคิดเห็น มาก - มากที่สุด มากกว่าร้อยละ 45 ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก มีระดับความคิดเห็น มาก - มากที่สุด มากกว่าร้อยละ 40 และด้านคุณภาพการให้บริการ มีระดับความคิดเห็นมาก - มากที่สุด มากกว่าร้อยละ 42 ซึ่งจากระดับความคิดเห็นดังกล่าว เป็นแนวทางการประเมินที่สามารถนำมาปรับปรุงและพัฒนาโครงการบริการวิชาการแก่สังคมชุมชน ให้มีความเหมาะสมและเป็นที่ต้องการของสังคมอย่างแท้จริงต่อไป และเห็นควรให้มีการดำเนินจัดฝึกอบรม มากกว่าร้อยละ 80 ของผู้เข้ารับฝึกอบรมฯที่ส่งแบบสอบถาม ทั้งนี้เพราะสามารถเพิ่มพูนความรู้ให้แก่เกษตรกร จากระดับปานกลางถึงมากคิดเป็นร้อยละ 60 การดำเนินการจัดฝึกอบรมควรจัดในช่วงเดือน มกราคม ถึง เมษายน ของทุกปี สำหรับการจัดฝึกอบรมครั้งนี้มีความเหมาะสมทั้งช่วงเวลา สถานที่ รูปแบบการจัดฝึกอบรมฯ วิทยากร สื่อการเสนอภาคบรรยาย วัสดุอุปกรณ์ปฏิบัติงานภาคสนาม อาหารและอาหารว่าง คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 82 ของผู้เข้ารับฝึกอบรมที่ส่งแบบสอบถาม
และการประเมินภายหลังการฝึกอบรมฯ พบว่า กลุ่มเกษตรกรสามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ คิดเป็นร้อยละ 86 และมีรายได้เสริมจากการปลูกหญ้าพืชอาหารสัตว์ ประมาณ 2,000 – 4,000 บาทต่อเดือน( ร้อยละ 73 ) โดยเกษตรกรได้นำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมฯไปลดค่ายใช้จ่ายในด้านการจัดซื้ออาหารหยาบเสริม ประมาณ 1,000-2,000 บาทต่อเดือน( ร้อยละ61 ) ขณะที่ในด้านคุณภาพชีวิตซึ่งสามารถประมาณเป็นตัวเงินได้ 2,000 – 3,000 บาทต่อเดือน และเป็นการนำความรู้ไปใช้พัฒนาอาชีพ ซึ่งได้นำความรู้ไปพัฒนาใช้หลังการอบรมภายใน 1 เดือน (ร้อยละ 86) ซึ่งเป็นการนำความรู้ไปใช้ในครอบครัว ( ร้อยละ75 )
อนึ่งในปี พ.ศ. 2550/2551 ที่ผ่านมา คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้ทำการศึกษาวิจัยทางด้านเทคนิคการปรับปรุงผลผลิตและคุณค่าทางโภชนะของหญ้าพืชอาหารสัตว์ในสภาพพื้นที่ลุ่มน้ำท่วมขัง,ดินทราย โดยได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานคณะกรรมการการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ซึ่งได้ทำการวิจัยมุ่งเน้นพัฒนาการปลูกถั่วและหญ้าพืชอาหารสัตว์ที่มีความสามารถเจริญเติบโตและให้ผลผลิตสูงในสภาพพื้นที่ลุ่มน้ำท่วมขัง และการจัดการเกี่ยวกับการตัดเก็บเกี่ยวแปลงหญ้าพลิแคทูลัมพืชอาหารสัตว์ ทั้งนี้เพราะว่าในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มเหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของหญ้าพลิแคทูลัม ที่เป็นหญ้าที่มีการปรับตัวและเจริญเติบได้ดีในสภาพพื้นที่ลุ่มน้ำท่วมขัง สามารถให้ผลผลิตและคุณค่าทางโภชนะดี ถ้ามีการจัดการที่เหมาะสมทั้งหญ้าและถั่วพืชอาหารสัตว์ ในหลายปีที่ผ่านมาทางคณะเกษตรศาสตร์ ได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกสร้างแปลงพืชอาหารสัตว์คุณภาพดีเป็นอาหารหยาบสำหรับเลี้ยงปศุสัตว์ในครัวเรือน ซึ่งจากการประเมินผลการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า เกษตรกรให้ความสนใจในการปลูกสร้างแปลงหญ้าเพื่อเลี้ยงปศุสัตว์เป็นจำนวนมาก และมีการเลี้ยงโคและกระบือ เพื่อไว้ใช้งานและขุนไว้ขายเป็นรายได้เสริม แต่เกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์เกือบทุกรายได้ประสบปัญหาขาดแคลนพืชอาหารสัตว์ทั้งในช่วงหน้าฝนและหน้าแล้ง รวมทั้งพื้นที่ป่าสงวนและพื้นที่ว่างเปล่าที่ใช้เลี้ยงสัตว์เหลือน้อยลงมาก อันเป็นผลมาจากการขยายตัวและพัฒนาทางด้านภาคอุตสาหกรรม ทำให้เกษตรกรต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเกี่ยวหญ้าในที่ๆห่างไกล เพื่อนำมาเลี้ยงโคและกระบือของตนเอง ขณะที่ถ้ากรณีเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมก็หันมาซื้ออาหารข้นที่มีราคาแพงสำหรับเป็นอาหารเสริมในการเลี้ยงสัตว์ ซึ่งมีผลทำให้เกษตรกรในภูมิภาคนี้มีต้นทุนในการประกอบอาชีพทางด้านการเกษตรสูงและมีรายได้ต่ำ
ดังนั้นคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการผลิตพืชอาหารสัตว์เพื่อเตรียมเสบียงอาหารหยาบสำหรับเลี้ยงโคและกระบือที่ภาคการผลิตกำลังขยายตัวในขณะนี้ รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรทุกกลุ่ม/หมู่เหล่า และทุกชุมชนได้หันมาทำการพัฒนาด้านการเกษตรกรรมแบบเศรษฐกิจพอเพียงและยั่งยืน และเป็นการเพิ่มอาชีพให้แก่เกษตรกรที่มีศักยภาพเพียงพอ ให้สามารถสร้างรายได้และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทางคณะเกษตรศาสตร์ จึงได้จัดทำโครงการ การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การผลิตพืชอาหารสัตว์คุณภาพดีเพื่อใช้ในการเลี้ยงปศุสัตว์แบบยั่งยืน” เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจในการจัดการแปลงหญ้าพืชอาหารสัตว์ ที่ได้ปลูกสร้างไว้แล้วมากกว่า 100 ไร่หรือ 100 รายของผู้ปลูกหญ้าจำหน่าย ให้สามารถสร้างรายได้แก่เกษตรกร และมีพืชอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพดี และเหมาะสมต่อสภาพพื้นที่ปลูก ทั้งที่ดอนและที่ลุ่มน้ำขัง น่าจะเป็นแนวทางที่ดีสำหรับการเพิ่มผลผลิตและความคงอยู่ของทุ่งหญ้าพืชอาหารสัตว์ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
|
|
วัตถุประสงค์ | |
กลุ่มเป้าหมาย |
|
เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ กระบือ เกษตรกรผู้ปลูกหญ้าพืชอาหาสัตว์และผู้สนใจทั่วไป ในเขตพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี
|
|
การดำเนินโครงการ (ขั้นตอนหรือวิธีการดำเนินงานโครงการฯ)
ก. รับสมัครและคัดเลือกเกษตรกรตามกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการ จำนวน 2 กลุ่มๆ 50 คน
ข. จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การผลิตพืชอาหารสัตว์คุณภาพดีเพื่อใช้ในการเลี้ยงปศุสัตว์แบบยั่งยืน จำนวน 2 วันต่อกลุ่ม
ค. ส่งเสริม และสาธิตการผลิตหญ้าพืชอาหารสัตว์ แบบเกษตรกรมีส่วนร่วม และจัดทำกลุ่มสาธิตตลาดพืชอาหารสัตว์ สาธิตในหมู่บ้านสำหรับ กลุ่มเกษตรกรทั้ง 2 กลุ่ม
ง. ติดตามตรวจเยี่ยมพื้นที่ และประเมินผลเกษตรกรที่เป็นสมาชิก และผ่านการฝึกอบรม
จ. วิเคราะห์ข้อมูล ประเมินผลการดำเนินงาน เพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินงานในปีต่อ
|
ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ||
1.รับสมัครและคัดเลือกเกษตรกร | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 5,000.00 | ||
2.จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 40,000.00 | ||
3.ส่งเสริมการปลูกหญ้าพืชอาหารสัตว์ | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 25,000.00 | ||
4.ติดตามตรวจเยี่ยมแปลง และประเมินผลเกษตรกร | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 10,000.00 | ||
5.วิเคราะห์ข้อมูล ประเมินผลการดำเนินงาน | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 10,000.00 |
ระยะเวลาการดำเนินการ |
ร่างกำหนดการดำเนินงาน |
13.00-16.30 | การจัดการเกี่ยวกับพืชอาหารสัตว์ | นายประพนธ์ บุญเจริญ และคณะ | |
12.00-13.00 | รับประทานอาหารเที่ยง | ||
09.00-12.00 | ความสำคัญของพืชอาหารสัตว์และปศุสัตว์ไทย การจำแนกพืชอาหารสัตว์ หลักการปลูกสร้างแปลงหญ้าพืชอาหารสัตว | ดร.นรินทร บุญพราหมณ์ และคณะ | |
08.45-09.00 | พิธีเปิดการอบรม | ดร.สราญ ปริสุทธิกุล และคณะ | |
08.30-08.45 | ลงทะเบียน | ดร.สราญ ปริสุทธิกุล และคณะ | |
09.00-12.00 น. | ความสำคัญของพืชอาหารสัตว์และปศุสัตว์ไทย การจำแนกพืชอาหารสัตว์ หลักการปลูกสร้างแปลงหญ้าพืชอาหารสัตว์( | ดร.นรินทร บุญพราหมณ์ และคณะ | |
13.00-16.00 น. | การจัดการเกี่ยวกับพืชอาหารสัตว์(ต่อ) | นายประพนธ์ บุญเจริญและคณะ |
ผลที่คาดว่าจะได้รับในการดำเนินโครงการฯ |
||
ตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ |
จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ | ||
ความพึงพอใจของผู้ร่วมโครงการ | ||
ผู้ร่วมโครงการที่นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ | ||
ระดับความรู้ที่เพิ่มขึ้นหลังจากร่วมโครงการ | ||
ความคุ้มค่าของงบประมาณต่อผู้ร่วมโครงการ |
ตัวชี้วัดด้านประกันคุณภาพ
|
การติดตามและประเมินผล |
การประเมินและรายงานผลการดำเนินงาน |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รายละเอียดงบประมาณ
งบประมาณทั้งสิ้น 100,000.00 บาท
|