คณะ/สำนัก/หน่วยงาน คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ชื่อโครงการ การประชุมวิชาการนานาชาติประวัติศาสตร์ โบราณคดี และนิรุกติศาสตร์ภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 1 "ประเด็นศึกษาและแนวทางการศึกษา" ลักษณะโครงการ การประชุมวิชาการ สัมมนาเชิงวิชาการ ความสอดคล้องกับมาตรการ / นโยบายของมหาวิทยาลัย | |||
ผู้รับผิดชอบ |
นายมิตต ทรัพย์ผุด | คุณวุฒิ : ปริญญาโท สาขา : ประวัติศาสตร์ |
ประสบการณ์ : (1) วิทยากรอบรมประวัติศาสตร์ท้องถิ่นให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาระดับมัธยมศึกษา
(2) การวิจัยทางด้านระเบียบวิธีวิจัยประวัติศาสตร์และประวัติศาสตร์นิพนธ์ะวันตกคริสต์ศตวรรษที่ 19-20
(3) การวิจัยประวัติศาสตร์สังคมเมืองภูมิภาคลุ่มน้ำโขงสมัยอาณานิคม ความเชี่ยวชาญ : (1) ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศคริสต์ศตวรรษที่ 19-20 (2) ประวัติศาสตร์สังคมเมืองภูมิภาคลุ่มน้ำโขงตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 |
หลักการและเหตุผล การทำเข้าใจอดีตอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างเข้าใจปัจจุบันอย่างถูกต้องเป็นจริง ดัชนีประการหนึ่งที่สามารถชี้ให้เห็นว่าสังคมประสบผลสำเร็จในการสร้างความเข้าใจอดีตอย่างต่อเนื่อง ถูกต้องตามความเป็นจริง และไม่มีอคติ คือสังคมที่มีขีดความสามารถสูงในการพัฒนาตนเองไปข้างหน้า มีความตระหนักรู้ถึงเหตุปัจจัยของพัฒนาการของสังคมตนเอง มีท่าทีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสังคมของตนเองและสังคมรอบข้างตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน เมือง ภาค ประเทศ ภูมิภาค และโลกอย่างสอดคล้องและเข้าใจถึงธรรมชาติของการพึ่งพาอาศัยระหว่างสังคม
สังคมไทยเช่นเดียวกับสังคมอื่นๆในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงยังมีความจำกัดในเรื่องการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับอดีตที่วางอยู่ในบริบทที่กว้างกว่าโลกที่มี "รัฐชาติของตนเอง" เป็นศูนย์กลาง การทำความเข้าใจอดีตที่ขาดมิติของเวลาที่มีระยะเวลายาวนาน (long term history) หรืออดีตที่ขาดมิติของพื้นที่ที่ครอบคลุมอาณาบริเวณที่เหตุการณ์หนึ่งๆส่งผลกระทบ (global history) หรืออดีตที่ขาดการอธิบายจากมุมมองที่หลากหลายของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเหตุการณืหรือปรากฏการณ์หนึ่งๆ อาการสำคัญประการหนึ่งของสังคมที่มีความอ่อนแอทางด้านความเข้าใจอดีตอาจจะแสดงให้เห็นในเรื่องความคลั่งชาติ ความไม่เคารพในความแตกต่างทางวัฒนธรรมของสังคมอื่นๆ ความอ่อนไหวต่อการปลุกเร้าของกลุ่มเคลื่อนไหวหรือรัฐบาลที่หวังผลทางการเมืองมากกว่าความสงบสุขทั้งภายในประเทศชาติของตนเองและภายในภูมิภาค
การสร้างองค์ความรู้ประวัติศาสตร์รัฐแบบชาตินิยม (nationalist history) ที่เริ่มเอาจริงเอาจังมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 และได้รับการเสริมแรงจากการประกาศอิสรภาพภายหลังสมัยอาณานิคมได้เกิดดอกออกผลเป็นการสร้างความทรงจำร่วม (collective memory) ให้กับเยาวชนทุกรุ่นอายุผ่านระบบการศึกษาที่ผลิตซ้ำอุดมการณ์ชาตินิยม (nationalism) ที่เกิดมีท้องถิ่นนิยม (localism) เป็นคู่ปรับในเวลาต่อมา กลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศ ระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ ระหว่างกลุ่มสังคม ดังที่ปรากฏแก่สายตาของสังคมทุกหมู่เหล่า หรืออย่างน้อยก็ส่วนใหญ่ในสังคมภูมิภาคลุ่มน้ำ (Mekong Region societies)
นักวิชาการที่ศึกษาอดีตของภูมิภาคลุ่มน้ำโขงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้ตั้งข้อสังเกตถึงแนวทางการพัฒนาการศึกษาประวัติศาสตร์ในยุคที่โลกาภิวัตน์เป็นชะตากรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของทุกสังคม การรวมกลุ่มประเทศเพื่อผลประโยชน์ของชาติและภูมิภาคในระดับความสำคัญที่เท่าเทียมได้รับการกำหนดไว้ในแผนพัฒนาระดับภูมิภาค แนวทางดังกล่าวคือการศึกษาประวัติศาสตร์ภูมิภาค (regional history) ในขณะที่สังคมของเรากำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นักวิชาการกลับไม่สามารถสร้างองค์ความรู้ได้อย่างเท่าทันความเปลี่ยนแปลงนั้น อย่างไรก็ตาม อาจไม่ใช่เป็นเพียงปัญหาในเรื่องของปริมาณนักวิชาการประวัติศาสตร์วิทยา (historical sciences) ที่มีจำนวนน้อยเท่านั้น แต่ปัญหาสำคัญของการศึกษาประวัติศาสตร์ภูมิภาคคือ ความจำเป็นในการร่วมมือกันค้นคว้าวิจัยของนักวิชาการของทุกประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ทั้งนี้ยังไม่นับปัญหาในเรื่องของข้อจำกัดของงบประมาณที่ประเทศต่างๆให้การสนับสนุน
ศูนย์วิจัยสังคมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาตามแนวทางประวัติศาสตร์ภูมิภาคและความจำเป็นอย่างยิ่งยวดของความร่วมมือในการค้นคว้าวิจัยประวัติศาสตร์วิทยาของภูมิภาคลุ่มน้ำโขงนี้ จึงได้ริเริ่มจัดโครงการประชุมวิชาการนานาชาติประวัติศาสตร์ โบราณคดี นิรุกติศาสตร์ครั้งที่ 1 "ประเด็นศึกษาและวิธีการศึกษา" เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักร่วมกันึงความสำคัญและจำเป็นของประวัติศาสตร์ภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในหมู่นักวิชาการทั้งไทยและต่างประเทศ อีกทั้งเพื่อเป็นการสร้างเวทีกลางให้เกิดการพบปะและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของนักวิชาการประวัติศาสตร์ โบราณคดี และนิรุกติศาสตร์ภูมิภาคลุ่มน้ำโขงทั่วทุกมุมโลก การจัดประชุมวิชาการนานาชาติในครั้งนี้จะช่วยทำให้ภารกิจด้านการเรียนการสอนในหลักสูตรสาขาวิชาภาษาและวัฒนธรรมภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและหลักสูตรสาขาวิชาประวัติศาสตร์ ทั้งระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษามีความเข้มแข็งควบคู่ไปกับความก้าวหน้าทางวิชาการด้านภูมิภาคลุ่มน้ำโขงศึกษาของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีต่อไป
|
|||
วัตถุประสงค์ | |||
กลุ่มเป้าหมาย |
|||
นักวิชาการต่างชาติโดยเฉพาะในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง นักวิชาการไทย นักศึกษา นักวิจัย บุคคลทั่วไปที่สนใจประวัติศาสตร์ โบราณคดี นิรุกติศาสตร์ภูมิภาคลุ่มน้ำโขง |
|||
การดำเนินโครงการ (ขั้นตอนหรือวิธีการดำเนินงานโครงการฯ)
1.1 การประชุมคณะทำงานเพื่อวางแผนการประชุม ได้แก่การตั้งคณะทำงานจัดประชุมพร้อมทั้งกำหนดรูปแบบการจัดทำบทความ กำหนดกิจกรรมการประชุมและวางแผนการจัดการการประชุมอย่างรอบด้าน
1.2 การประสานงานเชิญวิทยากร call for papers และประชาสัมพันธ์โครงการ ได้แก่การติดต่อประสานงานกับวิทยากร องค์ปาฐกการแจ้งรับบทความวิชาการ ตลอดจนประชาสัมพันธ์การประชุมตามสื่อต่างๆ ทั้งโปสเตอร์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ และเว็บไซต์
1.3 การจัดประชุม ได้แก่การจัดประชุมตามวัน เวลา สถานที่ซึ่งกำหนดไว้ โดยจัดทำเอกสารประกอบการประชุมด้วย
1.4 การส่งรูปเล่มรายงานผลโครงการ คือการรายงานผลต่อมหาวิทยาลัยในรูปแบบเอกสาร พร้อมทั้งจัดทำเอกสารสรุปบทความการประชุม (Proceedimgs) |
ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ||
1.ประชาสัมพันธ์/ Call for paper/ และพิจารณาบทความ | - | - | - | - | 150,000.00 | ||||||||
2.Selected Paper Annoucement | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 25,000.00 | |
3.จัดประชุมวิชาการนานาชาติ | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 200,000.00 | |
4.สรุปการจัดประชุม | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 25,000.00 |
ระยะเวลาการดำเนินการ |
ร่างกำหนดการดำเนินงาน |
08.30-09.00 | ลงทะเบียน | - | |
15.00-16.30 | นำเสนอผลงานวิชาการ ห้องประชุมย่อย 1 Mekong Region History since 19 Century ห้องประชุมย่อย 2 Mekong | - | |
15.00-15.15 | บริการอาหารว่างในห้องประชุม | - | |
13.30-15.00 | นำเสนอผลงานวิชาการ ห้องประชุมย่อย 1 Mekong Region philology ห้องประชุมย่อย 2 Mekong Region Archaeo | - | |
12.30-13.30 | พักรับประทานอาหารกลางวัน | - | |
11.30-12.30 | บรรยายพิเศษเรื่อง "Mekong Region philology" | ศาสตราจารย์ ดร.ธีระพันธ์ เหลืองทองคำ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | |
10.45-11.30 | บรรยายพิเศษเรื่อง "Mekong Region Archaeology" | ศาสตราจารย์ ดร. ม.ร.ว.สุริยวุฒิ สุขสวัสดิ์ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร | |
10.30-10.45 | บริการอาหารว่างในห้องประชุม | - | |
09.30-10.30 | ปาฐกถาพิเศษเรื่อง "Makong Region History : Why and How?" | ศาสตราจารย์ ดร.ปิยนาถ บุนนาค คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | |
09.00-09.30 | พิธีเปิด โดย อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวรายงานโดย คณบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธาน | - | |
15.00-16.30 | นำเสนอผลงานวิชาการ ห้องประชุมย่อย 1 Mekong Region History since 19 Century ห้องประชุมย่อย 2 Mekong | - | |
15.00-15.15 | บริการอาหารว่างในห้องประชุม | - | |
13.00-15.00 | นำเสนอผลงานวิชาการ ห้องประชุมย่อย 1 Mekong Region Philology ห้องประชุมย่อย 2 Mekong Region Archaeo | - | |
12.00-13.00 | พักรับประทานอาหารกลางวัน | - | |
09.00-12.00 | เสวนาวิชาการเรื่อง "Research in Mekong Region History,Archaeology and philology : Problems and Appra | นายมิตต ทรัพย์ผุด | |
08.30-09.00 | ลงทะเบียน | - | |
16.30 | กล่าวสรุปและปิดงาน โดย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | - |
ผลที่คาดว่าจะได้รับในการดำเนินโครงการฯ |
||
ตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ |
จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ | ||
ความพึงพอใจของผู้ร่วมโครงการ | ||
ผู้ร่วมโครงการที่นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ | ||
ระดับความรู้ที่เพิ่มขึ้นหลังจากร่วมโครงการ | ||
ความคุ้มค่าของงบประมาณต่อผู้ร่วมโครงการ |
ตัวชี้วัดด้านประกันคุณภาพ
|
การติดตามและประเมินผล |
การประเมินและรายงานผลการดำเนินงาน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รายละเอียดงบประมาณ
งบประมาณทั้งสิ้น 400,000.00 บาท
|