คณะ/สำนัก/หน่วยงาน คณะบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ชื่อโครงการ การตรวจสอบย้อนกลับในผลิตภัณฑ์อาหารที่ผลิตแบบอินทรีย์และการสร้างตราสินค้าสู่การพัฒนาตลาด ลักษณะโครงการ การฝึกอบรม อบรมเชิงปฏิบัติการ ความสอดคล้องกับมาตรการ / นโยบายของมหาวิทยาลัย | |||
ผู้รับผิดชอบ |
ดร.สุมาลี เงยวิจิตร | คุณวุฒิ : ปริญญาเอก สาขา : บริหารธุรกิจ |
ประสบการณ์ : สอนสาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ
ความเชี่ยวชาญ : Supply Chain & Logistics International Business Import/Export Management |
|||||||||||||
นายคมทัศน์ ทัศน์วา | คุณวุฒิ : ปริญญาโท สาขา : บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต |
ประสบการณ์ : อาจารย์สาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ ความเชี่ยวชาญ : การตลาด/ธุรกิจระหว่างประเทศ |
|||||||||||||
ดร.อนิรุธ สืบสิงห์ | คุณวุฒิ : ปริญญาเอก สาขา : วิทยาการคอมพิวเตอร์ |
ประสบการณ์ : - การพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับผู้ประกอบการ จัดโดย Science Park มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปี 2557
- การใช้งาน Google Apps for Education จัดโดย มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี ปี 2557
- การพัฒนาเว็บไซต์ด้วยภาษา PHP จัดโดย SIPA ร่วมกับ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปี 2556
-วิทยากรรับเชิญ “การเตรียมตัวเข้าสู่ AEC ของภาคธุรกิจด้าน IT” ความเชี่ยวชาญ : - Data Mining - Soft Computing - Information Retrieval - Network Systems - Parallel Programming - Database and Application Programming - Mobile Programming - Google Apps for Education - Internet Marketing |
|||||||||||||
ดร.จักริน วชิรเมธิน | คุณวุฒิ : ปริญญาเอก สาขา : วิทยาการคอมพิวเตอร์ |
ประสบการณ์ : - การพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับผู้ประกอบการ จัดโดย Science Park มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปี 2557
- การเขียนโปรแกรม PHP & MySQL จัดโดย SIPA และสำนักคอมพิวเตอร์และเครือข่าย มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปี 2556
ความเชี่ยวชาญ : - System Analysis and Design - Web Design and Development - Internet Marketing - Social Media Marketing - Data Mining - Parallel Programming - Database and Application Programming - Php Programming - Mobile Programming - Google Apps for Education |
หลักการและเหตุผล จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559) ประเทศไทยจะต้องเผชิญกับกระแสการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายในประเทศที่ปรับเปลี่ยนเร็วและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงต่อการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการเข้าร่วมประชาคมอาเซียนในปี 2558 จึงจำเป็นต้องเร่งเตรียมความพร้อมให้แก่คน สังคม และระบบเศรษฐกิจของประเทศให้สามารถปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเหมาะสม
ซึ่งองค์กรรวมทั้งบุคลากรจึงเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง แต่การทำงานในยุคปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูงมากไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอกองค์กร ทำให้หลาย ๆ องค์กรจำเป็นต้องมีการประยุกต์ใช้วิทยาการต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่เป็นผลิตผลทางการเกษตรที่มีขบวนการผลิตแบบอินทรีย์ หากสามารถจัดการขบวนการตรวจสอบย้อนกลับได้จะยิ่งทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจยิ่งขึ้นและเสริมศักยภาพการแข่งขันให้กับผลิตภัณฑ์ได้สูงขึ้นทำให้หลาย ๆ องค์กรจำเป็นต้องมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มความถูกต้องและรวดเร็วในการทำงานให้องค์กร อย่างไรก็ตามหนึ่งในเทคโนโลยีที่กำลังเข้ามามีบทบาทกับหลาย ๆ องค์กรก็คือเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือ
เพื่อพัฒนาและเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรขององค์กรเกี่ยวกับการพัฒนาและประยุกต์ใช้วิทยาการสมัยใหม่ต่างๆ จึงจำเป็นจะต้องมีการอบรมเชิงปฏิบัติการทางด้านความรู้และความสำคัญของขบวนการตรวจสอบย้อนกลับแก่เกษตรกร ผู้แปรรูปผลผลิต และ ผู้ที่เกี่ยวข้องตลอดขบวนการและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางด้านโทรศัพท์มือถือ จึงจำเป็นจะต้องมีการอบรมเชิงปฏิบัติการทางด้านการพัฒนาโปรแกรมแอนดรอยด์บนโทรศัพท์มือถือเพื่อการประยุกต์กับทางด้านธุรกิจ
ตามพระราชบัญญัติวิสาหกิจชุมชนปี พ.ศ.2548 มีหลักการเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมชุมชนให้มีการดำเนินกิจการด้วยตัวเองอย่างเข้มแข็ง โดยการจัดการพัฒนาและให้ความรู้ชุมชนนั้นๆในแบบของวิสาหกิจชุมชน เพื่อพัฒนาไปสู่การส่งออกและการค้าในประเทศและต่างประเทศต่อไป โดยในบางพื้นที่ภาครัฐได้เข้ามาร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อสนับสนุนและให้ความรู้แก่ชุมชนเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เป็นการค้นหาศักยภาพและสร้างมูลค้าให้กับวัตถุดิบที่มีอยู่ในชุมชนนั้นๆ ในรูปแบบต่างๆให้สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่นและภูมิปัญญาท้องถิ่ม รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพทางการตลาดในสินค้าเกษตร เพื่อให้สินค้าในชุมชนนั้นๆเป็นที่รู้จักในวงกว้าง สร้างชื่อเสียงให้ เป็นการสร้างรายได้และสร้างอาชีพให้กับชุมชนไปพร้อมกัน ให้คนในชุมชนสามารถพึงพาตัวเองเพื่อลดความเลื่อมล้ำทางสังคม
ในปี พ.ศ.2534 ภาครัฐและภาคเอกชนในส่งเสริมและผลักดันให้เกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือ โดยใช้รับการร่วมมือการกรมวิชาการเกษตรและบริษัทในเครือหลวงค้าข้าว ซึ่งให้คำแนะนำให้เกษตรกรเข้าใจหลักการและขั้นตอนในการปลูกข้าวอินทรีย์ที่ถูกต้องและทำการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในยุโรป
ชุมชนบ้านธาตุ ตำบลแสนสุข ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบทำนา ในผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์ ซึ่งเป็นวิธีการปลูกและผลิตข้าวโดยไม่ใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต รวมทั้งสารสังเคราะห์ต่างๆ เช่น สารเร่งการเติบโตของข้าว ปุ๋ยเคมี และสารกำจัดศัตรูพืช และวัชพืช ในขั้นตอนการผลิตนั้น จะไม่มีสารพิษตกค้างในดินและน้ำที่ใช้ในการปลูกข้าว ทำให้ได้ผลิตผลของข้าวอินทรีย์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยจากสารตกค้าง แต่ยังขาดการส่งเสริมทางด้านการตลาด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้สินค้าเกษตรอินทรีย์ในชุมชนบ้านธาตุ ตำบลแสนสุข เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพื่อส่งเสริมการสร้างรายได้ในชุมชนและเพื่อสร้างอาชีพให้กับชุมชน
|
|
วัตถุประสงค์ | |
กลุ่มเป้าหมาย |
|
ตัวแทนเกษตรกรและผู้ประกอบการในพื้นที่ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี |
|
การดำเนินโครงการ (ขั้นตอนหรือวิธีการดำเนินงานโครงการฯ)
อบรมเชิงปฏิบัติการ
1.ขบวนการตรวจสอบย้อนกลับคืออะไร
2. ทำไมต้องมีขบวนการตรวจสอบย้อนกลับ
3.ออกแบบขบวนการตรวจสอบย้อนกลับ
4.ทดลองปฏิบัติการ
5.ทำไมต้องตลาดระหว่างประเทศ
6.ความสำคัญของการสร้างแบรนด์
7.ออกแบบสร้างแบรนด์โลโก
8.ทดลองปฏิบัติการ
9.แนวคิดเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีโทรศัพท์กับงานทางด้านธุรกิจ
10.การพัฒนาโปรแกรมอย่างง่ายเพื่อใช้งานทางด้านธุรกิจ |
ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ||
1. | - | - | - | - | - | 133,860.00 |
ระยะเวลาการดำเนินการ |
ร่างกำหนดการดำเนินงาน |
ผลที่คาดว่าจะได้รับในการดำเนินโครงการฯ |
||
ตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ |
จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ | ||
ความพึงพอใจของผู้ร่วมโครงการ | ||
ผู้ร่วมโครงการที่นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ | ||
ระดับความรู้ที่เพิ่มขึ้นหลังจากร่วมโครงการ | ||
ความคุ้มค่าของงบประมาณต่อผู้ร่วมโครงการ |
ตัวชี้วัดด้านประกันคุณภาพ
|
การติดตามและประเมินผล |
การประเมินและรายงานผลการดำเนินงาน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รายละเอียดงบประมาณ
งบประมาณทั้งสิ้น 29,517,220.00 บาท
|