คณะ/สำนัก/หน่วยงาน คณะบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ชื่อโครงการ การพัฒนาสินค้าชุมชนอย่างครบวงจรเพื่อยกระดับสินค้าคุณภาพเชิงพาณิชย์วิสาหกิจชุมชน บ้านใหม่สารภี อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี ต่อเนื่อง ระยะที่ 5 ลักษณะโครงการ การฝึกอบรม อบรมเชิงปฏิบัติการ ความสอดคล้องกับมาตรการ / นโยบายของมหาวิทยาลัย | |||
ผู้รับผิดชอบ |
ดร.สุมาลี เงยวิจิตร | คุณวุฒิ : ปริญญาเอก สาขา : บริหารธุรกิจ |
ประสบการณ์ : สอนสาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ
ความเชี่ยวชาญ : Supply Chain & Logistics International Business Import/Export Management |
|||||||||
ดร.อุทัย อันพิมพ์ | คุณวุฒิ : ปริญญาเอก สาขา : วท.บ. เทคโนโลยีการเกษตร ศศ.ม. พัฒนาสังคม ปรด.พัฒนบูรณาการศาสตร์ |
ประสบการณ์ : ด้านการเลี้ยงโคนมและการแปรรูปผลิตภัณฑ์นม
ด้านการขยายพันธุ์พืช
ด้านการผลิตไม้ดอกไม้ประดับ
ด้านการผลิตเห็ดเศรษฐกิจ
ด้านการจัดการความรู้เกษตรประณีตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
ด้านการปลูกป่าปลูกเห็ดตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
ด้านการจัดการการผลิตและการสุขาภิบาลฟาร์มห็ดครบวงจร
ด้านการวางแผนและการจัดการทรัพยากรมนุษย์ ความเชี่ยวชาญ : การบริหารจัดการระบบการเกษตร การจัดการความรู้เกษตรประณีตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง การปลูกป่าปลูกเห็ดตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง การจัดการการผลิตและการสุขาภิบาลฟาร์มห็ดครบวงจร |
|||||||||
นางสาวอรุณี มะฎารัก | คุณวุฒิ : ปริญญาโท สาขา : วิทยาการคอมพิวเตอร์ |
ประสบการณ์ : 2551- ปัจจุบันอาจารย์คณะบริหารศาสตร์ ความเชี่ยวชาญ : ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ การวิเคราะห์และออกแบบฐานข้อมูล |
หลักการและเหตุผล การพัฒนาประเทศตามแนวทางเศรษฐกิจเสรีนิยมที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อการจัดการฟาร์มของเกษตรรายย่อยเป็นอย่างยิ่ง ดังจะเห็นได้จากสภาวการณ์การเป็นหนี้ของเกษตรกรนับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกษตรกรละทิ้งอาชีพเกษตรกรรมหันไปรับจ้างในเมืองมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการทำฟาร์มของเกษตรกรรายย่อยประสบกับภาวะต้นทุนการผลิตสูง ผลผลิตตกต่ำ ขายไม่ได้ราคา จึงทำให้รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ส่งผลให้กับเกษตรกรรายย่อยประสบกับความยากจน และนับวันที่จะแผ่ขยายในวงกว้างทั้งทางด้าน เศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม รวมทั้งทางด้านจิตลักษณะโดยมีองค์ประกอบ 7 ประการ ได้แก่ (1) จนเงิน (2) จนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (3) จนทางสังคม (4) จนทางการเมือง (5) จนการศึกษา (6) จนทางวัฒนธรรม และ (7) จนทางจิตวิญญาณ ไร้สิ่งยึดมั่นทางจิตใจ ขาดคุณธรรมและจริยธรรม และนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
จากรายงานการวิจัยของอุทัย อันพิมพ์ (2554) พบว่าการที่เกษตรกรไม่สามารถที่จะรักษาอาชีพของตนให้อยู่ได้นั้นเนื่องมาจากความรู้ไม่พอใช้ เพราะในการทำฟาร์มของเกษตรกรรายย่อยส่วนใหญ่มีการบริหารจัดการฟาร์มในลักษณะทำตามกันมา เกษตรกรไม่ได้ศึกษาองค์ความรู้ซึ่งเป็นองค์ประกอบในการทำฟาร์มอย่างรอบด้านและไม่ครอบคลุมในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมอย่างรอบด้าน จึงนับว่าเป็นความล้มเหลวของการทำฟาร์มของเกษตรกรรายย่อย แต่ก็มีอยู่บ้างที่ประสบความสำเร็จ แต่อยู่ในระดับที่น้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับภาพรวมของประเทศ และเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักจะเป็นเกษตรกรที่มีฐานะอยู่ในระดับปานกลางที่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ขึ้นไป ในขณะที่เกษตรกรอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งนับได้ว่าเป็นเกษตรกรในระดับรากหญ้าที่มีฐานะไม่ค่อยจะสู้ดีนัก (ยากจน) ในสังคม ที่จะต้องต้องหาเช้ากินค่ำ และประกอบอาชีพการเกษตรมาอย่างยาวนาน กลับพบว่ายิ่งทำการเกษตรมากเท่าใดก็ยิ่งมีความยากจนมากยิ่งขึ้น พร้อมกับมีภาระหนี้สินเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ เกษตรกรไม่สามารถเลี้ยงตนเอง และครอบครัวได้อย่างมีความสุข ซึ่งเป็นภาพที่เห็นตามสื่อต่างๆ และปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน
จากรายงานของการวิจัยของนายแพทย์อภิสิทธิ์ ธำรงวรางกูร, (2549) ซึ่งร่วมทำงานกับเครือข่ายปราชญ์ชาวบ้านและพหุภาคีภาคอีสาน และอุทัย อันพิมพ์, (2550) พบตรงกันว่า จากแนวทางการพัฒนาอาชีพการเกษตรที่ผ่านมาโดยมุ่งเน้นการผลิตแบบเชิงเดี่ยว เน้นการผลิตที่มุ่งหวังผลผลิต และกำไรมากๆ ได้ส่งผลให้เกษตรกรขาดความมั่นคงในชีวิต รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย สุดท้ายจึงทำให้เกษตรกรเป็นหนี้เป็นสินเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ และผลที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาอีกประการหนึ่งคือ กระบวนการส่งเสริมของภาครัฐ ที่พยายามให้ทั้งความรู้ทางวิชาการ และปัจจัยการผลิตอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งส่งผลระยะยาวแบบซึมซับ สุดท้ายเกษตรกรจึงขาดความเชื่อมั่นในตนเองทั้งด้านความรู้วิชาการและภูมิปัญญาพื้นบ้านที่ตนเองสั่งสมมาจากบรรพบุรุษ และประสบการณ์ จากสภาพปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับสังคมอาชีพเกษตรกรรม เครือข่ายปราชญ์ชาวบ้านและพหุภาคีภาคอีสาน จึงมีความเห็นว่าแนวทางที่จะทำให้อาชีพเกษตรกรรมนั้นสามารถดำรงอยู่ และสามารถเลี้ยงตนเอง และครอบครัวให้มีความสุขได้คือเกษตรกรจะต้องหันมาทำ “เกษตรประณีต” ที่อุทัย, (2550) ได้ให้ความหมายว่า “เกษตรประณีตเป็นกระบวนการเรียนรู้ในการทำเกษตรผสม โดยเริ่มต้นจากพื้นที่เล็กๆ ก่อน เมื่อมีความรู้และความชำนาญแล้ว จึงขยายพื้นที่ให้มากขึ้น ให้เพียงพอต่อการดำรงชีพของตนและครอบครัว” ซึ่งจะทำให้เกษตรกรสามารถที่จะทำให้เกษตรกรมีความยั่งยืนในอาชีพ ซึ่งสอดคล้องกับ ศ.เสน่ห์ จามริก. (2541) ได้กล่าวว่าในการศึกษาชุมชนชนบท หรือการที่คนในชนบทจะสามารถดำรงชีพได้อย่างมีความสุขนั้นจะต้องประกอบด้วย 3 มิติ ได้คือ มิติที่ 1 ต้นทุนชีวิต เอาไว้เป็นฐาน พวกธรรมชาติ พวกดิน แหล่งน้ำ ความหลากหลายทางชีวภาพ ฯลฯ ที่ใช้เป็นต้นทุนชีวิตเนื่องจากซื้อขายไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคนหนึ่งจะตกเป็นเหยื่อของอีกคนหนึ่ง เราต้องสร้างความเข้าใจ สร้างความสำนึกให้จงได้ เราจะจัดการการเรียนรู้อย่างไร มิติที่ 2 ดุลยภาพชีวิต ต้องดูแลเรื่องอาหารการกิน สุขภาพอนามัย ครอบครัว สภาพแวดล้อม ชนบทมีความสบายเรื่องอาหาร แต่ต้องมีการพัฒนาสิ่งนี้ให้ถูกสุขลักษณะสมัยใหม่ ความรู้วิทยาศาสตร์เบื้องต้นต้องรู้ และมิติที่ 3 การพัฒนาชีวิต และสังคมไปกับกระแสของโลกภายนอก คือกระแสการพัฒนาชนบท ซึ่งได้แก่ เรื่องของการแปรรูป เพิ่มมูลค่าการออม กองทุนชุมชน และเศรษฐกิจท้องถิ่น ฯลฯ วัฒนธรรมการเรียนรู้ มีแกนกลางคือ คน ครอบครัว และชุมชน
ดังนั้น คณะบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ในฐานะที่เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เปิดการเรียนการสอนด้านบริหารศาสตร์ และเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งมีประณิธานที่ว่า “คณะบริหารศาสตร์ รวมทุกศาสตร์ด้านการบริหาร” จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมกันในการจัดการเรียนรู้ด้านการบริหารจัดการการตลาดตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง อันจะนำไปสู่กระบวนการเรียนรู้ การบริหาร |
|
วัตถุประสงค์ | |
กลุ่มเป้าหมาย |
|
เกษตรกรและชาวบ้าน บ้านท่าช้าง บ้านใหม่สารภี อ.สว่างวีรวงศ์ จ.อุบลราชธานี |
|
การดำเนินโครงการ (ขั้นตอนหรือวิธีการดำเนินงานโครงการฯ)
อบรมเชิงปฏิบัติการ
1.หลักการ แนวคิด และเงื่อนไขแห่งความสำเร็จในการทำการตลาดกลางสินค้าเกษตรชุมชน และการประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
2.หลักการคัดเลือกสินค้าเพื่อนำมาวางจำหน่ายในตลาดกลาง
3.หลักการการตั้งราคา และการจัดเรียงสินค้าเพื่อดึงดูดผู้ซื้อ
4.แนวทางในการขนส่งสินค้าเกษตรสู่ตลาดอย่างมีคุณภาพ
5. ลงพื้นที่สัมภาษณ์ศึกษาข้อมูลของชุมชนและร่วมอภิปรายความเป็นไปได้ด้านการขยายสินค้าสู่ระบบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
6. อบรมการพัฒนาโปรแกรมอย่างง่าย
7.หลักการ แนวคิด และเงื่อนไขแห่งความสำเร็จในการทำเกษตรประณีตเกษตรประณีต และการประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
8.การบริหารจัดการฟาร์มเกษตรประณีต : แนวทางการสร้างอาชีพที่ยั่งยืน (การเพิ่มผลผลิตเห็ด และข้าว)
9.การจัดการการตลาดเห็ดและสินค้าเกษตร
10.การจัดการความรู้ด้านบัญชีเพื่อการพัฒนาอาชีพที่ยั่งยืน
11.การสร้างเครือข่ายการเรียนรู้เกษตรประณีต ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
12.กรณีศึกษาการทำเกษตรประณีต ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
|
ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ||
1. | - | - | - | 120,000.00 |
ระยะเวลาการดำเนินการ |
ร่างกำหนดการดำเนินงาน |
ผลที่คาดว่าจะได้รับในการดำเนินโครงการฯ |
||
ตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ |
จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ | ||
ความพึงพอใจของผู้ร่วมโครงการ | ||
ผู้ร่วมโครงการที่นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ | ||
ระดับความรู้ที่เพิ่มขึ้นหลังจากร่วมโครงการ | ||
ความคุ้มค่าของงบประมาณต่อผู้ร่วมโครงการ |
ตัวชี้วัดด้านประกันคุณภาพ
|
การติดตามและประเมินผล |
การประเมินและรายงานผลการดำเนินงาน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รายละเอียดงบประมาณ
งบประมาณทั้งสิ้น 104,700.00 บาท
|