คณะ/สำนัก/หน่วยงาน วิทยาลัยแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ชื่อโครงการ รูปแบบการจัดการเสียงจากการสัญจรของเรือในท่าน้ำในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอุบลราชธานี ลักษณะโครงการ อื่นๆ : การบริการทางด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ความสอดคล้องกับมาตรการ / นโยบายของมหาวิทยาลัย | |||
ผู้รับผิดชอบ |
นางนิตยา ชาคำรุณ | คุณวุฒิ : ปริญญาโท สาขา : เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม |
ประสบการณ์ : ความเชี่ยวชาญ : – Environmental management – Environmental and Health Impact Assessment (Air pollution and Noise) – Air quality modeling and Emission Inventory – Air quality monitoring and management – Air and Noise pollution control – Greenhouse gas management |
|||||||||||||||||||||||||
นางสาวจิราภรณ์ หลาบคำ | คุณวุฒิ : ปริญญาโท สาขา : สาธารณสุขศาสตร์ (อนามัยสิ่งแวดล้อม) |
ประสบการณ์ : ด้านบริการวิชาการ
1) ผู้ร่วมโครงการบริการวิชาการ โรงเรียนปลอดภัยอนามัยสิ่งแวดล้อมดี ปี 2556
2) ผู้ร่วมโครงการบริการวิชาการ สานฝันต้นกล้าสาธารณสุข ปี 2557
3) ผู้ร่วมโครงการบริการวิชาการ โรงเรียนต้นแบบด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมดี ปี 2557
4) หัวหน้าโครงการโรงเรียนต้นแบบด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมปี 2 พ.ศ. 2558
5) หัวหน้าโครงการโรงเรียนต้นแบบด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมปี 3 พ.ศ. 2559
ความเชี่ยวชาญ : การสุขาภิบาลอาหาร การจัดการคุณภาพน้ำ งานอนามัยสิ่งแวดล้อม |
|||||||||||||||||||||||||
นายสิทธิชัย ใจขาน | คุณวุฒิ : ปริญญาโท สาขา : สาธารณสุขศาสตร์มหาบัณฑิต สาขา อนามัยสิ่งแวดล้อม |
ประสบการณ์ : 1) ผู้ร่วมโครงการบริการวิชาการโรงเรียนต้นแบบด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม ปี 3 พ.ศ. 2559
2) ผู้ร่วมโครงการบริการวิชาการสาฝันต้นกล้าสาธารณสุข ปี 2559 ความเชี่ยวชาญ : -การจัดการสิ่งแวดล้อม - การจัดการคุณภาพน้ำ |
|||||||||||||||||||||||||
นางสาวสุภาณี จันทร์ศิริ | คุณวุฒิ : ปริญญาโท สาขา : อนามัยสิ่งแวดล้อม |
ประสบการณ์ : นักวิชาการสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร ความเชี่ยวชาญ : การควบคุมมลพิษทางอากาศ |
|||||||||||||||||||||||||
ผศ.สมเจตน์ ทองดำ | คุณวุฒิ : ปริญญาโท สาขา : อนามัยสิ่งแวดล้อม |
ประสบการณ์ : หัวหน้าโครงการวิจัยปี 56 1 โครงการ
นักวิจัยร่วม 1 โครงการ ความเชี่ยวชาญ : การจัดการขยะ ระบบบำบัดน้ำเสีย อนามัยสิ่งแวดล้อม |
|||||||||||||||||||||||||
นางสาวจีราพร ทิพย์พิลา | คุณวุฒิ : ปริญญาโท สาขา : วท.ม.สุขศาสตร์อุตสาหกรรมและความปลอดภัย |
ประสบการณ์ : ความเชี่ยวชาญ : อาชีวอนามัยและความปลอดภัย ระบบการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม |
|||||||||||||||||||||||||
นางสาวจินตนา ศิริบูรณ์พิพัฒนา | คุณวุฒิ : ปริญญาโท สาขา : การจัดการสำหรับนักบริหาร |
ประสบการณ์ : ผู้ร่วมโครงการบริการวิชาการ 2 โครงการ ความเชี่ยวชาญ : การบริหารงานสาธารณสุข กฏหมายด้านสาธารณสุข การพยาบาล |
หลักการและเหตุผล เรือเป็นการคมนาคมทางน้ำอีกทางเลือกหนึ่ง ของคนที่มีที่พักอาศัยหรือที่ทำงานใกล้เคียงกับแม่น้ำลำคลอง โดยเฉพาะกับวิถีชีวิตของชุมชนริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่กำหนดระยะเวลาในการเดินทางได้ง่ายกว่าการใช้รถโดยสารประจำทางหรือรถยนต์ส่วนตัวในการข้ามฝากไปมากับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่นสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยประชนชนในจังหวัดอุบลราชธานีและ สปป.ลาว ได้มีการติดต่อซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสิ้นค้ากันมาตั้งแต่สมัยอดีต มีการเดินทางสัญจรและขนส่งสินค้าโดยใช้เรือในการข้ามไปมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในปัจจุบันจังหวัดอุบลราชธานีมีท่าเรือสำหรับรับส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้าจำนวนทั้งสิ้น 6 ท่าเรือ ประกอบด้วย 1) ท่าเรือโขงเจียม 2) ท่าเรือสามพันโบก 3) ท่าเรือหาดสลึง 4) ท่าเรือเขมราฐ 5) ท่าเรือชานุมาน และ 6) ท่าเรือปากแซง มีจำนวนเรือประเภทเครื่องกลลำน้ำทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ที่ขึ้นทะเบียนไว้รวมทั้งสิ้น 135 ลำ โดยเรือที่วิ่งในลำน้ำโขง มี 2 ประเภท คือ ประเภทเรือกลลำน้ำ และเรือลำน้ำที่ไม่ใช้เรือกล มีจำนวนเที่ยวเรือที่วิ่งในแต่ละวันแตกต่างกันในแต่ละฤดูกาล ส่วนใหญ่ในฤดูฝนจำนวนเที่ยวเรือที่วิ่งจะลดลง ส่วนฤดูหนาวและฤดูร้อนจำนวนเที่ยวเรือจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนเทศกาลปีใหม่เดือนธันวาคม-มกราคม ในท่าเรือโขงเจียม และเขมราฐ โดยเฉลี่ยมีจำนวนเที่ยวเรือ 10-20 เที่ยวต่อวัน และเทศกาลท่องเที่ยวสามพันโบกและหาดสลึงในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน จะมีจำนวนเที่ยวเรือเพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ย 10-15 เที่ยวต่อวัน (สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอุบลราชธานี, 2558)
จากนโยบายรัฐบาลในการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้จังหวัดอุบลราชธานีได้มีการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ประกอบกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนทำให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ส่งผลให้การสัญจรคมนาคมทางเรือในท่าน้ำทั้ง 6 ท่า ของจังหวัดอุบลราชธานี มีรอบวิ่งเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ และเทศกาลท่องเที่ยวในเดือนมีนาคม-เมษายน โดยเฉพาะท่าเรือโขงเจียม เขมราฐ สามพันโบก และหาดสลึง ที่มีประชาชนสัญจรเดินเรือข้ามฝากไปยังประเทศลาว และนักท่องเที่ยวเข้ามาล่องเรือเที่ยวชมธรรมชาติ ทำให้ผู้ประกอบการต้องเพิ่มเที่ยววิ่งในแต่ละวัน ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงจากการจราจรทางเรือที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ประกอบการเรือและผู้โดยสาร ดังจะเห็นได้จากการติดตามตรวจวัดระดับเสียงเรือโดยสาร ซึ่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับกรมเจ้าท่า และกรมควบคุมมลพิษ ได้ดำเนินการตรวจวัดระดับเสียงของเรือโดยสารที่ใช้ในพื้นที่กรุงเทพมหานครในปี 2553 รวม 88 ลำ พบว่ามีระดับเสียงอยู่ในช่วง 85.7-105.3 เดซิเบลเอ เกินมาตรฐานคิดเป็นร้อยละ 15.9 ของจำนวนเรือที่ตรวจ (มาตรฐานไม่เกิน 100 เดซิเบลเอ) โดยเรือหางยาว (เรือกลลำน้ำขนาดเล็กและขนาดกลาง) มีระดับเสียงเกินมาตรฐานจำนวนมากกว่าเรือเครื่องกลางลำ (กรุงเทพมหานคร, 2555 ) นอกจากนี้จากการตรวจระดับความดังเสียงที่มีการกำหนดมาตรการชะลอความเร็วเพื่อลดเสียงของเรือโดยสาร บริเวณใกล้เขตพระราชฐาน วังสระปทุม บริเวณคลองแสนแสบ และจังหวัดสมุทรสงคราม พบว่ายังมีเสียงเกินมาตรฐานอยู่ร้อยละ 30 (กรมควบคุมมลพิษ, 2553) ดังนั้นจึงทำให้ประชาชน และผู้ปฏิบัติงานในบริเวณใกล้เคียง มีโอกาสได้รับอันตรายต่อสุขภาพและต่อจิตใจ เช่น รบกวนการพักผ่อน ก่อเกิดความรำคาญ รบกวนการสื่อสาร รบกวนประสิทธิภาพการทำงาน เกิดความเครียด เสียสุขภาพจิต อาจเป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง และโรคแผลในกระเพาะอาหาร (กรมควบคุมมลพิษ, 2547)
อย่างไรก็ตามแม้เรือที่ใช้สัญจรในท่าน้ำของจังหวัดอุบลราชธานี มีจำนวนไม่หนาแน่นเทียบเท่ากับในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่เนื่องด้วยในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวและยังมีการสัญจรทางเรืออยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรือที่สัญจรมีทั้งเรือขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ รวมทั้งมีการดัดแปลงเครื่องยนต์ของเรือจากผู้ประกอบการบางราย และลักษณะสภาพเรือเป็นเรือเก่าทำให้มีเสียงดังในขณะวิ่งเมื่อมีจำนวนเที่ยววิ่งเพิ่มขึ้น ประกอบกับหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยเฉพาะสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอุบลราชธานี ยังไม่มีการตรวจวัดระดับความดังเสียงจากเรือดังกล่าว และยังไม่มีการบังคับใช้มาตรการในการจัดการและควบคุมดูแลระดับความดังเสียงจากเครื่องจักรกลของเรือที่วิ่ง จึงอาจก่อให้เกิดผลกระทบจากระดับความดังเสียงที่เกิดขึ้นได้ และจากการลงพื้นที่ทำวิจัยเกี่ยวกับการตรวจวัดความดังเสียงของเรือในปีงบประมาณ 2559 เบื้องต้นได้ดำเนินการตรวจเรือทั้งหมด 2 ท่า มีเรือเข้าร่วมตรวจวัดเสียงจำนวน 32 ลำ พบว่ามีเรือที่มีความดังเสียงเกินมาตรฐานจำนวน 9 ลำ แต่เสียงที่ตรวจวัดได้มีค่าส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 90 - 100 เดซิเบลเอ ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับค่ามาตรฐาน (มาตรฐานเสียงของเรือไม่เกิน 100 เดซิเบลเอ) ซึ่งอาจจะมีผลกระทบสะสมต่อผู้ปฏิบัติงานในอนาคตได้ ทั้งนี้ด้วยความตระหนักถึงพิษภัยของการประกอบอาชีพและการทำงานของผู้ประกอบการเรือและผู้โดยสาร ผู้วิจัยมีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาถึงผลกระทบจากระดับเสียงที่เกิดจากการสัญจรของเรือในท่าน้ำทั้ง 6 ท่า ในจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อนำไปสู่การวางแผนในการกำหนดรูปแบบหรือมาตรการในการจัดการระดับเสียงจากการสัญจรของเรือในจังหวัดอุบลราชธานีต่อไป |
||||
วัตถุประสงค์ | ||||
กลุ่มเป้าหมาย |
||||
1. เรือกลลำน้ำ และผู้ประกอบการเรือกลลำน้ำ ที่ขึ้นทะเบียนเรือกับกรมเจ้า ที่อยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอุบลราชธานี ทั้งหมด |
||||
การดำเนินโครงการ (ขั้นตอนหรือวิธีการดำเนินงานโครงการฯ)
1. การเตรียมงานวิจัยและทบทวนเอกสาร
1.1 ประสานหน่วยงานและรวบรวมข้อมูลระดับทุติยภูมิ
2. แผนงานและวิธีการดำเนินงานวิจัย
2.1 ออกแบบและสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
2.2 การอบรมทีมวิจัยและวิธีดำเนินงาน
2.3 ทดสอบเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
3. การดำเนินงานวิจัยในพื้นที่เป้าหมาย
3.1 เตรียมพื้นที่และประสานหน่วยงาน
3.2 การสำรวจและเก็บข้อมูลปฐมภูมิ
3.3 ตรวจวัดระดับเสียงจากการสัญจรของเรือ
3.4 ตรวจวัดสมรรถภาพในการได้ยินของคนขับเรือ
3.5 อบรมให้ความรู้กับผู้ประกอบการเรือและคนขับเรือ
4. การวิเคราะห์ข้อมูล
4.1 ประมวลผลข้อมูล
4.2 วิเคราะห์และแปลผลข้อมูล
5. การสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูล
5.1 จัดเวทีสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลให้กับผู้ประกอบการเดินเรือในท่าน้ำจังหวัดอุบลราชธานีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
5.2 กำหนดรูปแบบการจัดการระดับเสียงจากการสัญจรของเรือในท่าน้ำจังหวัดอุบลราชธานี
6. จัดทำรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ |
ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ||
1.ประสานหน่วยงานและรวบรวมข้อมูลระดับทุติยภูมิ | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 2,000.00 | |
2.ออกแบบและสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 5,000.00 | ||
3.การอบรมทีมวิจัยและวิธีดำเนินงาน | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 4,500.00 | ||
4.ทดสอบเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 2,000.00 | |
5.ตรียมพื้นที่และประสานหน่วยงาน | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 2,000.00 | ||
6.การสำรวจและเก็บข้อมูลปฐมภูมิ | - | - | - | - | - | - | - | 7,000.00 | |||||
7.ตรวจวัดระดับเสียงจากการสัญจรของเรือ | - | - | - | - | - | - | - | 38,000.00 | |||||
8.ตรวจวัดสมรรถภาพในการได้ยินของคนขับเรือ | - | - | - | - | - | - | - | 28,000.00 | |||||
9.อบรมให้ความรู้กับผู้ประกอบการเรือและคนขับเรือ | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 86,400.00 | |||
10.ประมวลผลข้อมูล วิเคราะห์และแปลผลข้อมูล | - | - | - | - | - | - | - | - | 7,000.00 | ||||
11.จัดเวทีสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลให้กับผู้ประกอบการเดินเรือในท่าน้ำจังหวัดอุบลราชธานีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 8,000.00 | |||
12.กำหนดรูปแบบการจัดการระดับเสียงจากการสัญจรของเรือในท่าน้ำจังหวัดอุบลราชธานี | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 3,600.00 | |
13.จัดทำรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 6,500.00 |
ระยะเวลาการดำเนินการ |
ร่างกำหนดการดำเนินงาน |
09.00 | ประสานหน่วยงานและรวบรวมข้อมูลระดับทุติยภูมิ | ||
09.00 | ออกแบบและสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย | ||
09.00 | การอบรมทีมวิจัยและวิธีดำเนินงาน | ||
09.00 | การสำรวจและเก็บข้อมูลปฐมภูมิ | ||
09.00 | ตรวจวัดระดับเสียงจากการสัญจรของเรือ | ||
09.00 | ตรวจวัดสมรรถภาพในการได้ยินของคนขับเรือ | ||
09.00 | อบรมให้ความรู้กับผู้ประกอบการเรือและคนขับเรือ | ||
09.00 | จัดเวทีสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลให้กับผู้ประกอบการเดินเรือในท่าน้ำจังหวัดอุบลราชธานีและหน่วยงานที่เกี่ |
ผลที่คาดว่าจะได้รับในการดำเนินโครงการฯ |
||
ตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ |
จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ | ||
ความพึงพอใจของผู้ร่วมโครงการ | ||
ผู้ร่วมโครงการที่นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ | ||
ระดับความรู้ที่เพิ่มขึ้นหลังจากร่วมโครงการ | ||
ความคุ้มค่าของงบประมาณต่อผู้ร่วมโครงการ |
ตัวชี้วัดด้านประกันคุณภาพ
|
การติดตามและประเมินผล |
การประเมินและรายงานผลการดำเนินงาน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รายละเอียดงบประมาณ
งบประมาณทั้งสิ้น 200,000.00 บาท
|