คณะ/สำนัก/หน่วยงาน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ชื่อโครงการ การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารพื้นบ้านสำหรับผู้สูงอายุ ลักษณะโครงการ การฝึกอบรม อบรมเชิงปฏิบัติการ ความสอดคล้องกับมาตรการ / นโยบายของมหาวิทยาลัย | |||
ผู้รับผิดชอบ |
ผศ.ดร.เอกสิทธิ์ อ่อนสอาด | คุณวุฒิ : ปริญญาเอก สาขา : ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (เทคโนโลยีอาหาร) |
ประสบการณ์ : เทคโนโลยีการแปรรูปอาหาร และ เคมีอาหาร
หัวข้อที่สนใจ การใช้ประโยชน์จากโปรตีนพืช; สมบัติเชิงหน้าที่ของโปรตีน
ความเชี่ยวชาญ : การแปรรูปอาหาร คุณสมบัติเชิงหน้าที่ของโปรตีน |
|||||||||||||||||||||
ผศ.ดร.วิริยา พรมกอง | คุณวุฒิ : ปริญญาเอก สาขา : Food Science and Technology |
ประสบการณ์ : การแปรรูปอาหาร วิศวกรรมอาหาร ความเชี่ยวชาญ : การแปรรูปอาหาร วิศวกรรมอาหาร |
|||||||||||||||||||||
ดร.ชุติมา ทองแก้ว | คุณวุฒิ : ปริญญาเอก สาขา : เทคโนโลยีการอาหาร |
ประสบการณ์ : ความเชี่ยวชาญ : |
|||||||||||||||||||||
ดร.ปัญจภรณ์ ทัดพิชญางกูร พรหมโชติ | คุณวุฒิ : ปริญญาเอก สาขา : เทคโนโลยีการอาหาร |
ประสบการณ์ : เทคโนโลยีการอาหาร ความเชี่ยวชาญ : ผลิตภัณฑ์ประมง คุณสมบัติเชิงหน้าทีี่ของโปรตีน |
|||||||||||||||||||||
ผศ.ดร.อภิญญา เอกพงษ์ | คุณวุฒิ : ปริญญาเอก สาขา : ปร.ด.(เทคโนโลยีการอาหาร) |
ประสบการณ์ : ความเชี่ยวชาญ : การพัฒนาผลิตภัณฑ์ |
|||||||||||||||||||||
นางอุไรวรรณ บัวสอน | คุณวุฒิ : ปริญญาตรี สาขา : การประถมศึกษา |
ประสบการณ์ : 18 ปี ความเชี่ยวชาญ : - |
หลักการและเหตุผล ผู้สูงอายุเป็นประชากรกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดภาวะทุพโภชนาการ :
ข้อมูลจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 ระบุอย่างชัดเจนถึงแนวโน้มที่ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุใน 20 ปีข้างหน้า โดยระบุว่าประชากรวัยเด็กมีสัดส่วนลดลงอย่างรวดเร็วจากร้อยละ 24.3 ในปี พ.ศ. 2543 เป็นร้อยละ 20.2 ในปี พ.ศ. 2558 ประชากรวัยทำงานยังคงมีสัดส่วนสูงอย่างต่อเนื่องจากร้อยละ 65.9 ในปี พ.ศ. 2543 และสูงสุดในปี พ.ศ. 2552 คือร้อยละ 67.1 ก่อนจะลดลงเป็นร้อยละ 66.0 ในปี พ.ศ. 2558 สำหรับประชากรวัยสูงอายุมีสัดส่วนสูงขึ้นเป็นลำดับจากร้อยละ 9.5 ในปี พ.ศ. 2543 เป็นร้อยละ 13.8 ในปี พ.ศ. 2558 ผู้สูงอายุมักเกิดปัญหาทางสุขภาพหลายๆ ด้านพร้อมกัน โรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ มีทั้งโรคที่เกิดขึ้นทางร่างกาย และจากปัญหาทางจิตใจ ได้แก่ โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจขาดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคข้อเสื่อม โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืด หรือท้องผูก โรคทางประสาทตา เช่น โรคต้อหินหรือ ต้อกระจก โรคสมองเสื่อม โรคอัลไซเมอร์ และอาการวิตกกังวล นอนไม่หลับ เป็นต้น โดยสาเหตุสำคัญมาจากความเสื่อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงการดูแลสุขภาพที่ไม่เหมาะสม ที่ส่งผลให้ผู้สูงอายุมักขาดสารอาหารในระดับที่ทำให้เกิดภาวะทุพโภชนาการได้ง่าย แม้ว่าผู้สูงอายุจะมีความต้องการอาหารในปริมาณที่ลดลงจากวัยหนุ่มสาว แต่จำเป็นต้องได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และสร้างความต้านทานโรค เนื่องจากเมื่อย่างเข้าสู่วัยสูงอายุจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกาย สังคม และเศรษฐกิจ เช่น การรับรู้รสอาหารได้ด้อยลง การเสื่อมของระบบย่อยและดูดซึมอาหารของผู้สูงอายุ อีกทั้งผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว อาจจะเป็นอุปสรรคในการไปหาซื้ออาหารข้างนอก หรือแม้แต่การจะประกอบอาหารด้วยตนเอง ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำรงชีวิต เช่น การมีข้อจำกัดจากสภาพทางเศรษฐกิจ เนื่องจากไม่มีรายได้หรือมีรายได้ลดลงที่ต้องใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง อีกทั้งการที่ต้องอยู่บ้านคนเดียวขาดการติดต่อกับสังคมภายนอก การมีกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือการพบปะสังสรรค์ทางสังคมน้อยลง ที่มีผลต่อสภาพทางจิตใจ ทำให้เบื่ออาหาร ตลอดทั้งการเลือกรับประทานอาหารโดยไม่คำนึงถึงประเภทที่หลากหลาย และของสารอาหารที่ควรได้รับครบถ้วน หรือไม่ควรได้รับมากเกินไป ผู้สูงอายุจึงมีโอกาสที่จะบริโภคโปรตีนไม่เพียงพอไม่ครบตามความต้องการหรือมีคุณภาพไม่ดีพอในขณะที่มีโอกาสที่จะขาดวิตามินแทบทุกชนิดและได้รับเกลือแร่โดยเฉพาะแคลเซียมและเหล็กไม่เพียงพอ ผู้สูงอายุ จึงมักขาดสารอาหารในระดับที่ทำให้เกิดภาวะทุพโภชนาการได้ง่าย (สุเทพ อาชานันทกุล และจันทนาอาชานัยนันท์, 2552; http://www.bangkokhealth.com)
ผลิตภัณฑ์อาหารพื้นบ้านเพื่อสุขภาพผู้สูงอายุ
การสำรวจการเข้าถึงสถานพยาบาลและรายจ่ายด้านสุขภาพของผู้ป่วยที่ตายระหว่างปี พ.ศ. 2548 - 2549 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ (2549) พบว่าการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Not contagious disease) เป็นสาเหตุการตายของประชากรจำนวน 198,953 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 51.3 ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด โดยเฉพาะการเป็นโรคมะเร็งและโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการตายของประชากรจำนวน 62,890 และ 62,827 คน ตามลำดับ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเท่ากันที่ร้อยละ 16.2 ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด รายงานจากองค์การอนามัยโลกเมื่อเร็วๆ นี้ระบุว่า ภาวการณ์ตายและเจ็บป่วยและความพิการที่เป็นผลมาจากโรควิถีชีวิตเป็นเรื่องสำคัญในปัจจุบัน และมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา ที่พบเป็นสาเหตุการตายของประชากรถึงร้อยละ 66 ของการตายทั้งหมด โดยเป็นผลจากการบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม และการขาดการออกกำลังกายหรือกิจกรรมทางกาย (Physical inactivity) และระบุว่าภาระโรค (Burden of Disease) เช่น ความดันโลหิตสูง และคลอเลสเตอรอลสูง ในประชากรก่อให้เกิดความสูญเสียปีสุขภาวะ และกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของโลก เพราะก่อให้เกิดภาวะค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงกับสังคม ในขณะที่สุขภาพเป็นปัจจัยหลักของการพัฒนาประเทศและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับผลสำรวจภาระโรคและภาระจากปัจจัยเสี่ยงของคนไทย พ.ศ. 2547 โดยกระทรวงสาธารณสุข (กรมอนามัย: http://nutrition.anamai.moph.go.th/web/khonthairaipung.html) การตระหนักในผลของพฤติกรรมและรูปแบบการดำรงชีวิตต่อสุขภาพทำให้อาหารพื้นบ้านเพื่อสุขภาพเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคสมัยใหม่ อาหารพื้นบ้านไทย มีรสชาติที่อร่อยกลมกล่อม หลากหลายรส และยังเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งชี้ถึงวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของคนไทยในแต่ละท้องถิ่นที่สร้างสรรค์ปรุงแต่งให้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารพื้นบ้านไทยเป็นอาหารที่ได้สมดุลทางโภชนาการ ผสมผสานลงตัวระหว่างชนิดและปริมาณของอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่จะมีข้าวเป็นอาหารหลัก อาจจะเป็นข้าวเจ้าหรือข้าวเหนียวแล้วแต่ท้องถิ่น และมักเป็นข้าวซ้อมมือซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินที่สำคัญ การปรุงอาหารจะเป็นการต้ม แกง ยำ ตำ มีการปรุงที่เรียบง่าย ไม่พิถีพิถัน ใช้เวลาไม่มาก ใช้น้ำมันในการปรุงอาหารน้อย มีการใช้เนื้อสัตว์ไม่มาก แหล่งโปรตีนได้จากปลา ไก่ ไข่ หมู และสัตว์อื่นๆ บางชนิดในท้องถิ่น เครื่องปรุงล้วนเป็นสมุนไพรที่ได้จากธรรมชาติ และที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นอาหารพื้นบ้านนานาชนิดที่หาได้ นำมาปรุงเป็นอาหาร หรือนำมาเป็นเครื่องจิ้มกับอาหารประเภทน้ำพริก หรือหลนต่างๆ ส่วนความพึงพอใจในรสชาติ หรือความอร่อยของอาหารไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว จะเห็นได้ว่า "อาหารพื้นบ้านของไทยเป็นอาหารที่มีไขมันต่ำแต่มีเส้นใยอาหารสูง มีคุณค่าทางโภชนาการทั้ง วิตามิน เกลือแร่ เอนไซม์กรดไขมัน มีความปลอดภัยจากสารเคมีและยังให้สรรพคุณทางสมุนไพรที่วิเศษ ซึ่งหาได้ยากจากอาหารประเภทอื่นๆ ซึ่งเหมาะสมสำหรับการพัฒนาอาหารพื้นบ้านและผลิตภัณฑ์อาหารพื้นบ้านสำหรับผู้สูงอายุ (http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/2258) ดังนั้นทางสาขาอุตสาหกรรมเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีได้เล็งเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมพื้นบ้าน จึงได้จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาอุสาหกรรมอาหารพื้นบ้าน (Center of Research and Industrial Development for Indigenous Food) ซึ่งทางคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราธานี มีศักยภาพและประสบการณ์ด้านการวิจัยและมีความพร้อมด้านอุปกรณ์ และเครื่องมือพื้นฐานที่ใช้ในงานวิจัยและพัฒนาอาหารพื้นบ้านและผลิตภัณฑ์อาหารพื้นบ้านสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุที่ดี |
||
วัตถุประสงค์ | ||
กลุ่มเป้าหมาย |
||
ผู้ประกอบการ กลุ่มแม่บ้าน วิสาหกิจชุมชน และผู้สูงอายุ |
||
การดำเนินโครงการ (ขั้นตอนหรือวิธีการดำเนินงานโครงการฯ)
การสำรวจ/ศึกษาข้อมูล/วางแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารพื้นบ้านสำหรับผู้สูงอายุ
การคัดเลือกความคิดผลิตภัณฑ์ใหม่ (Idea Screening)
พัฒนากระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารพื้นบ้านสำหรับผู้สูงอายุ
ถ่ายทอดเทคโนโลยี
จัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์
พัฒนากระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารพื้นบ้านสำหรับผู้สูงอายุ |
ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ||
1.การสำรวจ/ศึกษาข้อมูล/วางแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารพื้นบ้านสำหรับผู้สูงอายุ | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 30,000.00 | |||
2.การคัดเลือกความคิดผลิตภัณฑ์ใหม่ (Idea Screening) | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 20,000.00 | ||
3.พัฒนากระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารพื้นบ้านสำหรับผู้สูงอายุ | - | - | - | - | - | - | - | - | 100,000.00 | ||||
4.ถ่ายทอดเทคโนโลยี | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 40,000.00 | ||
5.จัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์ | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 10,000.00 |
ระยะเวลาการดำเนินการ |
ร่างกำหนดการดำเนินงาน |
9.00-16.00 | ถ่ายทอดเทคโนโลยี | ผศ.ดร.เอกสิทธิ์ อ่อนสอาด และคณะ |
ผลที่คาดว่าจะได้รับในการดำเนินโครงการฯ |
||
ตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ |
จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ | ||
ความพึงพอใจของผู้ร่วมโครงการ | ||
ผู้ร่วมโครงการที่นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ | ||
ระดับความรู้ที่เพิ่มขึ้นหลังจากร่วมโครงการ | ||
ความคุ้มค่าของงบประมาณต่อผู้ร่วมโครงการ |
ตัวชี้วัดด้านประกันคุณภาพ
|
การติดตามและประเมินผล |
การประเมินและรายงานผลการดำเนินงาน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รายละเอียดงบประมาณ
งบประมาณทั้งสิ้น 200,000.00 บาท
|