คณะ/สำนัก/หน่วยงาน คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ชื่อโครงการ กิจกรรมสะเต็มศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ลักษณะโครงการ การฝึกอบรม อบรมเชิงปฏิบัติการ ความสอดคล้องกับมาตรการ / นโยบายของมหาวิทยาลัย | |||
ผู้รับผิดชอบ |
นายสุระ วุฒิพรหม | คุณวุฒิ : ปริญญาเอก สาขา : วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีศึกษา |
ประสบการณ์ : - ความเชี่ยวชาญ : - |
|||||||||||||||||||||||||||||
นางรัตนาพร ทิวะพล | คุณวุฒิ : ปริญญาตรี สาขา : เคมี |
ประสบการณ์ : นักวิทยาศาสตร์ 30 ปี ความเชี่ยวชาญ : นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ |
|||||||||||||||||||||||||||||
นางสาวเสาวนีย์ เหล่าสิงห์ | คุณวุฒิ : ปริญญาโท สาขา : เคมี |
ประสบการณ์ : สอนปฏิบัติการเคมีอินทรีย์ 10 ปี ความเชี่ยวชาญ : ปฏิบัติการเคมีอินทรีย์ |
|||||||||||||||||||||||||||||
นางสาวพิศิชานันท์ ศรีสุวรรณ | คุณวุฒิ : ปริญญาตรี สาขา : เคมี |
ประสบการณ์ : สอนปฏิบัติการเคมีทั่วไป 5 ปี ความเชี่ยวชาญ : นักวิทยาศาสตร์ |
|||||||||||||||||||||||||||||
นางมัทธนา กะชา | คุณวุฒิ : ปริญญาตรี สาขา : เคมี |
ประสบการณ์ : สอนปฏิบัติการเคมี 1 เป็นเวลา 20 ปี ความเชี่ยวชาญ : นักวิทยาศาสตร์ |
|||||||||||||||||||||||||||||
นางสุภาพร กรแก้ว | คุณวุฒิ : ไม่ได้ระบุ สาขา : อาชีวะ |
ประสบการณ์ : งานเลขานุการ 10 ปี ความเชี่ยวชาญ : งานเลขานุการ |
|||||||||||||||||||||||||||||
นายสายชล พิมพ์มงคล | คุณวุฒิ : ปริญญาโท สาขา : เทคโนโลยีทางการศึกษา |
ประสบการณ์ : -วิทยากรอบรมโครงงานวิทยาศาสตร์
-วิทยากรอบรมห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์
-วิทยากรอบรมครูสร้างสื่อการเรียนการสอนแบบมืออาชีพ
-วิทยากรอบรมฟิสิกส์โอลิมปิก
-วิทยากรอบรมคูปองครู
-วิทยากรอบรมสเต็มศึกษา ความเชี่ยวชาญ : -ซ่อมและพัฒนาเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ -ออกแบบปรับปรุงและสร้างสื่อการเรียนการสอนทางฟิสิกส์ |
|||||||||||||||||||||||||||||
ผศ.ดร.กานต์ตะรัตน์ วุฒิเสลา | คุณวุฒิ : ปริญญาเอก สาขา : วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีศึกษา |
ประสบการณ์ : สอน 5 ปี ความเชี่ยวชาญ : "วิทยากรโครงงานวิทยาศาสตร์ ผู้นำเครือข่ายท้องถิ่นโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย" |
หลักการและเหตุผล ผลการทดสอบมาตรฐาน Trends in International Mathematics and Science Study (TIMSS) สำหรับวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนไทยทั่วประเทศในปี ค.ศ. 2011 พบว่า ในระดับประถมศึกษาปีที่ 4 นักเรียนไทยมีคะแนนเฉลี่ย 472 ซึ่งต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ย 500 ของนักเรียนระดับเดียวกันทั่วโลกและในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 นักเรียนไทยมีคะแนนเฉลี่ยเพียง 451 ซึ่งต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ย 500 ของนักเรียนระดับเดียวกันทั่วโลก (Provasnik et al., 2012) ซึ่งสอดคล้องกับผลรายงานของ World Economic Forum ใน Global Competitiveness Report 2014–2015 ที่เสนอว่าคุณภาพการศึกษาระดับประถมศึกษาของไทยมีค่า 3.6 จากคะแนนเต็ม 7.0 (51%) จัดอยู่ในลำดับที่ 91 จาก 144 ประเทศที่เข้าร่วม และอยู่ในลำดับที่ 7 จาก 10 ประเทศของกลุ่มประเทศอาเซียน, และมีคุณภาพการสอนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เป็น 3.9 จากคะแนนเต็ม 7.0 คะแนน (56%) จัดอยู่ในลำดับที่ 6 ของกลุ่มประเทศอาเซียน นอกจากนี้จากการประเมินผลนานาชาติของโครงการ Programme for International Student Assessment (PISA) พบว่า ความรู้และทักษะทางวิทยาศาสตร์ของเด็กไทย อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย อีกทั้งประเทศไทยยังขาดแคลนนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรที่จะขับเคลื่อนการพัฒนา สิ่งเหล่านี้แสดงถึงปัญหาของการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศไทยและขีดความสามารถในการแข่งขันกับกลุ่มประเทศอาเซียน ปัญหาเหล่านี้มีปัจจัยหลายอย่าง แต่ปัจจัยที่สำคัญมากอันหนึ่งคือ ครูผู้สอน คุณภาพของครูผู้สอนส่งผลอย่างมากต่อการพัฒนาศักยภาพผู้เรียนและสะท้อนคุณภาพการศึกษา ซึ่งปัจจัยนี้ก็เป็นความท้าทายที่ใหญ่เพราะครูผู้สอนส่วนใหญ่ผ่านการเรียนรู้ในแบบดั้งเดิมที่ไม่ได้เน้นการเรียนการสอนแบบมีปฏิสัมพันธ์ ขณะเดียวกันงานวิจัยได้แสดงว่า การเรียนการสอนที่มีกันทั่วไปนั้น ที่ให้ครูเป็นแหล่งความรู้แต่ไม่ใช่ผู้จัดกระบวนการเรียนรู้นั้น ไม่ได้ส่งเสริมให้นักเรียนมีการเรียนรู้ที่ยั่งยืน ทำให้นักเรียนขาดความรู้ และทักษะที่เพียงพอที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ ซึ่งงานวิจัยเหล่านี้ยังได้แสดงด้วยว่า การอบรมที่ถูกต้อง เหมาะสม และต่อเนื่อง สามารถทำให้ครูเป็นผู้เรียนที่มีปฏิสัมพันธ์ (active learner) และครูนั้นสามารถที่จะทำให้ชั้นเรียนที่ครูสอนกลายเป็นชั้นเรียนที่มีปฏิสัมพันธ์ได้ การอบรมนั้นจะต้องอยู่บนพื้นฐานความรู้ที่ถูกต้อง ให้ครูได้มีโอกาสลงมือทำจริงในการอบรม และสอดคล้องกับการเรียนการสอนที่ครูจะเจอให้ห้องเรียนจริง
สะเต็มศึกษา (STEM Education) เป็นนวัตกรรมการเรียนรู้รูปแบบหนึ่งที่บูรณาการความรู้ใน 4 ศาสตร์ที่มีความสำคัญอย่างมากกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ การพัฒนาคุณภาพชีวิต และความมั่นคงของประเทศ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรม (Engineering) และคณิตศาสตร์ (Mathematics) เข้าดวยกัน ให้ผูเรียนนําความรู้ไปใช้แก้ปญหาในชีวิตจริง รวมทั้งการพัฒนากระบวนการหรือผลผลิตใหมที่เป็นประโยชน์ต่อการดําเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ ผ่านประสบการณ์ในการทํากิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) หรือ กิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning)
ปี พ.ศ. 2556 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้จัดตั้งเครือข่ายสะเต็มศึกษาประเทศไทย เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนและส่งเสริมการจัดการเรียนรูตามแนวทางสะเต็มศึกษาในโรงเรียนทั่วประเทศโดยมี ศูนย์สะเต็มศึกษาแห่งชาติ ที่ สสวท. เป็นศูนยกลางในการบริหารจัดการและประสานงานกับ ศูนย์การศึกษาสะเต็มศึกษาภาคจํานวน 13 ศูนย์ ซึ่งอยูใน 12 จังหวัดทั่วประเทศ สำหรับในจังหวัดอุบลราชธานี ศูนย์การศึกษาสะเต็มศึกษาภาค ตั้งอยู่ที่โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช และมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีทำหน้าที่เป็นมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยงสะเต็มศึกษา โดย ผศ.ดร.สุระ วุฒิพรหม เป็นวิทยากรแกนนำ (Core Trainer)
ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของบุคลากรทั้งระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและบุคลากรของมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นผู้รับช่วงต่อนักเรียนเข้ามาศึกษาในระดับอุดมศึกษา ให้มีความรู้ความเข้าใจในหลักการและจุดมุ่งหมายของการเรียนการสอนตามหลักสูตร STEM Education รวมทั้งการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษาให้กับโรงเรียนเครือข่ายสะเต็มศึกษา ในปีงบประมาณ 2560 ได้รับอนุมัติให้จัดกิจกรรมการเรียนรู้สะเต็มศึกษาสำหรับครูคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อให้ครู อาจารย์ ได้รับทราบแนวทางและนำไปวางแผนการจัดการต่อไป เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในปีงบประมาณ 2561 นี้ ยังคงมีการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้เกี่ยวกับสะเต็มศึกษาการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 แก่อาจารย์และครูกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการอบรม จากนั้นก็เป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการออกแบบและพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษาเพื่อให้ครูนำแผนฯ ไปใช้จริงกับนักเรียนของตนเอง หลังจากนั้นก็จะเป็นการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของครูทั้งผ่านระบบออนไลน์และการนิเทศการสอน และสรุปผลการดำเนินงานตลอดโครงการเพื่อหา best practice ในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษา |
||||
วัตถุประสงค์ | ||||
กลุ่มเป้าหมาย |
||||
โรงเรียนในพื้นที่ 4 ตำบลรอบมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และ โรงเรียนกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 |
||||
การดำเนินโครงการ (ขั้นตอนหรือวิธีการดำเนินงานโครงการฯ)
1.ให้ความรู้เกี่ยวกับสะเต็มศึกษาการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับครูกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการอบรมในปี 2560
2. ออกแบบและพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษา สำหรับครูที่อบรมทั้งในปี 2560-2561
3.การติดตามผลการเรียนรู้ทางเครือข่ายสังคมออนไลน์
4.ประชุมและเลือกแผนการจัดการเรียนรู้ต้นแบบ สำหรับครูที่อบรมทั้งในปี 2560-2561
|
ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ||
1.การอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง สะเต็มศึกษาการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 60,000.00 | |
2.การอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง แผนการจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษา | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 60,000.00 | |
3.ประชุมและเลือกแผนการจัดการเรียนรู้ต้นแบบ | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | 30,000.00 | |
4.การติดตามผลการจัดการเรียนรู้ทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ | - | - | - | - | - | - | - | 0.00 |
ระยะเวลาการดำเนินการ |
ร่างกำหนดการดำเนินงาน |
9-17 น | การอบรม กิจกรรมสะเต็มศึกษาในศตวรรษที่ 21 | สุระ วุฒิพรหมและคณะ | |
9-17 น | การอบรม การสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ในกิจกรรมสะเต็มศึกษาในศตวรรษที่ 21 | สุระ วุฒิพรหมและคณะ | |
9-17 น | ประชุมและเลือกแผนการจัดการเรียนรู้ต้นแบบ | สุระ วุฒิพรหมและคณะ |
ผลที่คาดว่าจะได้รับในการดำเนินโครงการฯ |
||
ตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ |
จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ | ||
ความพึงพอใจของผู้ร่วมโครงการ | ||
ผู้ร่วมโครงการที่นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ | ||
ระดับความรู้ที่เพิ่มขึ้นหลังจากร่วมโครงการ | ||
ความคุ้มค่าของงบประมาณต่อผู้ร่วมโครงการ |
ตัวชี้วัดด้านประกันคุณภาพ
|
การติดตามและประเมินผล |
การประเมินและรายงานผลการดำเนินงาน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รายละเอียดงบประมาณ
งบประมาณทั้งสิ้น 150,000.00 บาท
|