แบบเสนอโครงการบริการวิชาการแก่สังคม ประจำปีงบประมาณ 2561
คณะ/สำนัก/หน่วยงาน คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

ชื่อโครงการ เพิ่มขีดความสามารถของชุมชนและการสร้างกลไกความร่วมมือในการจัดการที่ดินสาธารณะของท้องถิ่น
ลักษณะโครงการ การฝึกอบรม อบรมเชิงปฏิบัติการ
ความสอดคล้องกับมาตรการ / นโยบายของมหาวิทยาลัย
มาตรการ : สร้างเครือข่ายการบริการวิชาการกับหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย ในด้านสังคมสูงวัย ด้านการยกระดับคุณภาพการศึกษา ด้านการสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ และการเสริมสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มศักยภาพของชุมชนและสังคม
นโยบาย : การให้บริการวิชาการเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้แก่ชุมชน / สังคม / กลุ่มวิชาชีพ
ผู้รับผิดชอบ
ชื่อ - สกุล
คุณวุฒิ
ประสบการณ์
ตำแหน่ง/ความรับผิดชอบในโครงการ
นางสาวจันทรา ธนะวัฒนาวงศ์ คุณวุฒิ : ปริญญาเอก
สาขา : รัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิต รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ประสบการณ์ : หัวหน้าโครงการเงินงบประมาณแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ 2560 1. โครงการการส่งเสริมความรู้และการบริหารจัดการที่ดินโดยชุมชนท้องถิ่นเป็นศูนย์กลาง 2. โครงการวันรัฐธรรมนูญกับสังคมการเมืองไทย
ความเชี่ยวชาญ : รัฐศาสตร์
หัวหน้าโครงการ

หลักการและเหตุผล
นับตั้งแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 1 พ.ศ. 2501 การมุ่งพัฒนาสู่ความเป็นอุตสาหกรรมและการบริการ ได้นำไปสู่ประเด็นปัญหาที่สำคัญสำหรับประชาชนทั่วไปทั้งผู้อยู่อาศัยในเมืองและในชนบท ปัญหาการยื้อแย่งที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของผู้ที่อาศัยและทำมาหากินอยู่ในพื้นที่ของเมืองและชนบท อันเนื่องมาจากการพัฒนาที่ผ่านมา ทำให้ภาคเกษตรกรรมประสบปัญหามูลค่าผลผลิตทางการเกษตรมีมูลค่าต่ำ แม้ว่าประชากรมากกว่าร้อยละ 70 จะอยู่ในภาคการเกษตรแต่ผลผลิตมวลรวม (GDP) ไม่ถึงร้อยละ 10 (เครือข่ายวิชาการเพื่อการปฏิรูป,2013. ออนไลน์) ปัญหาการผลิตทำให้เกษตรกรบางส่วนขายที่ดินทำกินเพราะขาดทุนด้านการผลิตและภาวะหนี้สิน กลายเป็นคนไร้ที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย ต้องละทิ้งอาชีพเกษตรกรรมและมุ่งเข้าสู่การเป็นแรงงานในเมือง ขาดความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินขณะที่ปัญหาที่ดินในภาคชนบทที่เชื่อมโยงกับปัญหาที่ดินในเขตเมือง กระบวนการพัฒนาเมือง การสร้างโครงสร้างพื้นฐานในเขตเมือง ทำให้กลุ่มชนชั้นนำและกลุ่มทุนผู้มีทรัพยากรทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองที่เหนือกว่าเข้ายึดครองพื้นที่เมือง ด้วยการ ช่วงชิงโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรที่ดินทั้งที่เป็นที่ดินเอกชนและที่ดินสาธารณะของชุมชน ทั้งด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายและไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อการเก็งกำไรและเพื่อการประกอบกิจการเพื่อรองรับเมืองขณะที่แรงงานจากชนบทที่อพยพเข้ามาเมืองก็มากระจุกตัวเป็นแรงงานในภาคเมืองโดยไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินเพราะที่ดินมีราคาแพง ขณะที่การขยายตัวของหน่วยงานราชการเพื่อรองรับการให้บริการสาธารณะของเมือง ส่งผลต่อข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานรัฐกับชุมชนในการใช้ประโยชน์จากที่ดินของรัฐจึงเกิดสภาพเมืองที่ขยายตัวอย่างไร้ทิศทาง แม้รัฐจะมีมาตรการควบคุมการใช้ที่ดินให้เป็นไปตามผังเมือง แต่พลังการเติบโตทางเศรษฐกิจที่กระจุกตัวในเมืองทำให้การวางผังเมืองไร้ผลในปัจจุบันปัญหาของความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงและการใช้ประโยชน์จากที่ดินกลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ ที่ดูเหมือนจะหาทางแก้ไขได้ อย่างยากลำบาก ด้วยการมุ่งเน้นการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจที่ดินจึงกลายเป็นฐานปัจจัยการผลิตที่สำคัญ ขณะที่รัฐเองก็ส่งเสริมการส่งเสริมการผลิตด้านเกษตรกรรรม ด้วยสภาพปัญหาและความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงและการใช้ประโยชน์ที่ดิน ทำให้ชุมชนต้องตกเป็นเหยื่อของการพัฒนา รูปแบบการบริหารจัดการที่ดินจึงเป็นไปตามเงื่อนไขของแนวทางการพัฒนาประเทศ อิทธิพลนักการเมืองและและนายทุน ซึ่งทำให้ชุมชนต้องกลายเป็นผู้รับผลกระทบถูกขับไล่จากพื้นที่และการใช้ประโยชน์ไม่ได้ตอบสนองต่อความต้องการของชุมชน ศูนย์กลางของการออกแบบการจัดการที่ดินจึงอยู่ที่รัฐส่วนกลางและอิทธิพลของทุนมากกว่าชุมชน แม้ว่ารัฐจะพยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหาการยื้อแย่งและการเหลื่อมล้ำในการถือครองและเข้าถึงที่ดิน แต่แนวทางที่กำหนดจากรัฐเองก็ไม่ได้แก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน การขาดการบริหารจัดการอย่างบูรณาการและขาดการมีส่วนร่วมของชุมชนจึงเป็นเงื่อนไขสำคัญที่สามารถตอบโจทย์ได้ว่าทำไมการแก้ปัญหาการจัดการที่ดินของรัฐจึงไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี ได้เกิดปรากฎการณ์ของภาคประชาชนในระดับชุมชนและท้องถิ่นที่ลุกขึ้นมาเรียกร้อง ต่อสู้ เพื่อรักษาทรัพยากรที่ดินและสิทธิในการครอบครอง การใช้ประโยชน์ในที่ดินของชุมชนอย่างกว้างขวาง การเคลื่อนไหวปรากฏทั้งในรูปของปัจเจกและการรวมกลุ่มของประชาชนเป็นขบวนการชาวบ้าน ขบวนการชุมชน มีการเคลื่อนไหวทั้งอาศัยช่องทางทางกฎหมายและนอกช่องทางทางกฎหมาย เช่น การดื้อแพ่งต่อกฎหมายการถือครองที่ดินที่ไม่เป็นธรรม การร้องเรียน การบุกยึดที่ดินคืน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างมากมายในปัจจุบัน แต่ก็นับเป็นการเคลื่อนไหวในลักษณะแบบกระจายตามประเด็นและพื้นที่ และเป็นการเคลื่อนไหวที่อาศัยความสัมพันธ์เชิงเครือข่ายของกลุ่มและประเด็น ความสำเร็จและผลสะเทือนที่เกิดขึ้นของแต่ละการเคลื่อนไหวจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยขีดความสามารถของแต่ละกลุ่มแต่ละเครือข่าย กลุ่มชาวบ้าน หรือ ขบวนการชาวบ้านที่มีเครือข่ายกว้าง มีประสบการณ์ในการเคลื่อนไหว อาจจะมีแนวโน้มที่จะมีอิทธิพลในการเรียกร้องและต่อสู้เรื่องสิทธิได้มากกว่า กลุ่มหรือขบวนการชาวบ้านที่ไร้ซึ่งปัจจัยดังกล่าว ขณะที่ประเด็นปัญหาของการถูกยื้อแย่งสิทธิที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยมีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเรียกร้องของชาวบ้านและชุมชนก็เพิ่มขึ้นอย่างเท่าทวีคูณ ดังนั้น การตั้งคำถามว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนและชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาและประสบกับปัญหาการถูกยื้อแย่งที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยสามารถลุกขึ้นมาเรียกร้อง ปกป้องทรัพยากรที่ดินของตนและของชุมชนได้ รวมไปถึง การทำอย่างไรให้กระบวนการเรียกร้องปัญหาดังกล่าวนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องและยุติธรรม ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญสำหรับการจัดทำโครงการบริการวิชาการเพื่อสังคมในครั้งนี้ พื้นที่ตำบลแจระแมและตำบลเมือง เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ได้ประสบกับปัญหาของการบริหารจัดการที่ดิน เพราะเป็นพื้นที่เขตเมืองที่เป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก เป็นศูนย์กลางของหน่วยงานราชการ เป็นพื้นที่สำคัญในการรองรับการขยายตัวของเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ที่สำคัญเป็นพื้นทีที่ประสบปัญหาของการยื้อแย่งที่ดินของประชาชนและชุมชนทั้งโดยชอบธรรมและไม่ชอบธรรม ชุมชนถูกขับไล่ทั้งโดยยินยอมและไม่ยินยอม เพื่อเป็นพื้นที่รองรับการพัฒนา ปัญหาการออกแบบผังเมืองและการประกาศใช้ผังเมืองที่ประชาชนไม่มีส่วนร่วมยิ่งซ้ำเติมปัญหาให้รุนแรงมากขึ้น การรวมตัวของภาคประชาชน ชุมชนและเอกชนในการแก้ไขปัญหาได้เกิดขึ้นอย่างหลากหลาย มีทั้งขบวนการของกลุ่มผู้อยู่อาศัยในชุมชนแออัด เรียกร้องสิทธิที่อยู่อาศัย การรวมตัวของกลุ่มชาวบ้านเรียกร้องต่อการถูกแย่งที่ดินสาธารณะ และการเคลื่อนไหวผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหา ดังนั้น เมื่อเกิดปรากฎการณ์ที่ประชาชน กลุ่มประชาชนได้เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องและป้องป้องสิทธิในที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของตน การเพิ่มขีดความสามารถและการสร้างกลไกที่จะเชื่อมโยงเครือข่ายชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสถาบันวิชาการจึงสำคัญที่จะช่วยให้ชุมชน โดยเฉพาะชุมชนในเขตเมืองศูนย์กลางการพัฒนาสามารถป้องกันและรับมือกับผลกระทบจากการพัฒนาต่อการใช้ประโยชน์ในที่ดินและสิทธิที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินของประชาชนได้อย่างยั่งยืนและเป็นธรรม

วัตถุประสงค์
1.เพื่อสร้างกลไกความร่วมมือในการจัดการที่ดินระหว่าง แกนนำชุมชน ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์กรภาคีเครือข่ายจากภายนอก
2.เพื่อขยายและเพิ่มขีดความสามารถให้กับเครือข่ายการจัดการที่ดินของชุมชนท้องถิ่นศูนย์กลาง

กลุ่มเป้าหมาย
คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ
1. ระดับชุมชน ประกอบด้วย แกนนำชุมชน ผู้นำชุมชน คณะกรรมการชุมชน เยาวชนและประชาชนทั่วไป 2. ระดับองค์กร ประกอบด้วย นักเรียน นักศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่ปฏิบัติงานด้านที่ดินและนักวิชาการที่สนใจ
จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ
60 คน

การดำเนินโครงการ (ขั้นตอนหรือวิธีการดำเนินงานโครงการฯ)
1. กิจกรรมและวิธีดำเนินการ
1.การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ 2.การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ 3.ถอดบทเรียนกลไกการทำงาน

2. แผนการดำเนินงาน (ที่สัมพันธ์กับกิจกรรมดำเนินงาน)
กิจกรรม
2560
2561
รวมเงิน (บาท)
ไตรมาสที่ 1
ไตรมาสที่ 2
ไตรมาสที่ 3
ไตรมาสที่ 4
ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย.
1.ประชุมกำหนดแนวทางการทำงานร่วมกันและกำหนดหลักสูตรการพัฒนาขีดความสามารถชุมชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเครือข่ายการจัดการที่ดินของชุมชน - --- --- --- 55,100.00
2.จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพิ่มศักยภาพของชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเครือข่ายการจัดการที่ดินของชุมชน -- --- --- --- 75,800.00
3.เวทีคืนข้อมูล --- - --- --- 118,100.00
4.เวทีเก็บข้อมูล เพื่อ การจัดทำชุดความรู้/ประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดการที่ดินของชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น --- --- - --- 69,050.00
5.ถอดบทเรียนกลไกการทำงานเครือข่ายที่ดิน --- --- -- --- 68,500.00
6.จัดเวทีสาธารณะนำเสนอแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถของชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการที่ดินของชุมชน --- --- --- -- 109,900.00
7.จัดทำรายงานผลโครงการและเบิกจ่ายค่าใช้จ่าย --- --- --- -- 0.00

ระยะเวลาการดำเนินการ
ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2560 - 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 รวมเวลา 304 วัน

ร่างกำหนดการดำเนินงาน
วัน/เดือน/ปี
เวลา
กิจกรรม / หัวข้อ
วิทยากร
17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
09.00-16.30 น. ประชุมกำหนดแนวทางการทำงานร่วมกันและกำหนดหลักสูตรการพัฒนาขีดความสามารถชุมชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล วิทยากรภายนอก,ภายใน
18 ธันวาคม พ.ศ. 2560
09.00-16.30 น. จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพิ่มศักยภาพของชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเครือข่ายการจัดการที่ดินของชุมช วิทยากรภายนอก,ภายใน
16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
09.00-16.30 น. เวทีคืนข้อมูล วิทยากรภายนอก,ภายใน
14 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
09.00-16.30 น. เวทีเก็บข้อมูล เพื่อ การจัดทำชุดความรู้/ประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดการที่ดินของชุมชนและองค์กรปกครองส่ว วิทยากรภายนอก,ภายใน
13 มิถุนายน พ.ศ. 2561
09.00-16.30 น. ถอดบทเรียนกลไกการทำงานเครือข่ายที่ดิน วิทยากรภายนอก,ภายใน
19 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
09.00-16.30 น. จัดเวทีสาธารณะนำเสนอแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถของชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการที่ดินข วิทยากรภายนอก,ภายใน

ผลที่คาดว่าจะได้รับในการดำเนินโครงการฯ
ด้านเศรษฐกิจ :
ด้านสังคม : 1 ได้กลไกขับเคลื่อนเครือข่ายการจัดการที่ดิน (ได้แผนการทำงานร่วมกัน มีผู้ประสานงานในชุมชน ระหว่างชุมชน ระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงาน ) 2. ได้แนวทางการประสานความร่วมมือ
ด้านสิ่งแวดล้อม :
ด้านอื่นๆ :

ตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ
ตัวชี้วัด
หน่วย
ค่าเป้าหมาย
จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ
คน
60
ความพึงพอใจของผู้ร่วมโครงการ
ร้อยละ
80
ผู้ร่วมโครงการที่นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
ร้อยละ
70
ระดับความรู้ที่เพิ่มขึ้นหลังจากร่วมโครงการ
มากกว่าหรือเท่ากับ 1
ความคุ้มค่าของงบประมาณต่อผู้ร่วมโครงการ
-ไม่มีข้อมูล

ตัวชี้วัดด้านประกันคุณภาพ
แผนการใช้ประโยชน์จากการบริการวิชาการ
การใช้ประโยชน์ในการพัฒนานักศึกษา


การใช้ประโยชน์กับชุมชนหรือสังคม


แผนการบูรณาการกับการเรียนการสอน
แผนบูรณาการการเรียนการสอน
ลักษณะการบูรณาการ
ตัวชี้วัดความสำเร็จ
วิชา 1วิชาการเมืองกับสิ่งแวดล้อม 2.วิชานโยบายและการจัดการสิ่งแวดล้อม 3.วิชาการเมืองภาคประชาชน
หลักสูตร รัฐศาสตรบัณฑิต
นักศึกษาชั้นปี : 4
การนำเนื้อหาของการบริการวิชาการเข้าสอดแทรกในสาระวิชาที่ทำการสอน นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการที่ดินและบทบาทของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหา
การนำนักศึกษาออกพื้นที่เพื่อร่วมให้บริการวิชาการตามแผนงานที่กำหนด
การมอบหมายงานให้นักศึกษาทำโครงการจากปัญหาของการให้บริการวิชาการ • นักศึกษาในรายวิชาดังกล่าวมีส่วนร่วมในกิจกรรมตามที่กำหนด • นักศึกษานำข้อมูลจากพื้นที่มาระดมสมองเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา นำมาจัดทำข้อเสนอโครงการที่ตอบสนองปัญหา/พัฒนาชุมชนโดยใช้ข้อมูลที่ได้จากการใช้เครื่องมือการศึกษาเป็นฐาน • นักศึกษานำข้อมูลมานำเสนอแลกเปลี่ยนในชั้นเรียน • รายงานชุดความรู้/ประสบการณ์ด้านการจัดการที่ดิน

การติดตามและประเมินผล
รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานทุก 3 เดือน ให้คณะ และมหาวิทยาลัยทราบ ตามระบบที่มหาวิทยาลัยกำหนด

การประเมินและรายงานผลการดำเนินงาน
- ส่งรายงานผลการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์ตามรูปแบบที่มหาวิทยาลัยกำหนด ให้กับคณะและมหาวิทยาลัย จำนวน 1 ฉบับ ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ดำเนินโครงการแล้วเสร็จ
- ส่งรายงานทางการเงินให้กับคณะและมหาวิทยาลัย ภายใน 45 วัน นับจากวันที่ดำเนินโครงการแล้วเสร็จ

รายละเอียดงบประมาณ
หมวดที่ 1 หมวดค่าตอบแทน ( รวม 67,500.00 บาท )
หัวข้อ 1.1 หมวดค่าตอบแทนวิทยากร ( รวม 67,500.00 บาท )
-วิทยากรภายนอก ( รวม 43,200.00 บาท )
1) จำนวน 1 วัน x จำนวน 3 ชม. x ชม.ละ 1,200.00 บาท x จำนวน 2 คน
=
7,200.00 บาท
2) จำนวน 1 วัน x จำนวน 3 ชม. x ชม.ละ 1,200.00 บาท x จำนวน 2 คน
=
7,200.00 บาท
3) จำนวน 1 วัน x จำนวน 3 ชม. x ชม.ละ 1,200.00 บาท x จำนวน 1 คน
=
3,600.00 บาท
4) จำนวน 1 วัน x จำนวน 3 ชม. x ชม.ละ 1,200.00 บาท x จำนวน 3 คน
=
10,800.00 บาท
5) จำนวน 1 วัน x จำนวน 3 ชม. x ชม.ละ 1,200.00 บาท x จำนวน 1 คน
=
3,600.00 บาท
6) จำนวน 1 วัน x จำนวน 3 ชม. x ชม.ละ 1,200.00 บาท x จำนวน 3 คน
=
10,800.00 บาท
-วิทยากรภายใน ( รวม 24,300.00 บาท )
1) จำนวน 1 วัน x จำนวน 3 ชม. x ชม.ละ 300.00 บาท x จำนวน 5 คน
=
4,500.00 บาท
2) จำนวน 1 วัน x จำนวน 3 ชม. x ชม.ละ 300.00 บาท x จำนวน 5 คน
=
4,500.00 บาท
3) จำนวน 1 วัน x จำนวน 3 ชม. x ชม.ละ 300.00 บาท x จำนวน 3 คน
=
2,700.00 บาท
4) จำนวน 1 วัน x จำนวน 3 ชม. x ชม.ละ 300.00 บาท x จำนวน 2 คน
=
1,800.00 บาท
5) จำนวน 1 วัน x จำนวน 3 ชม. x ชม.ละ 600.00 บาท x จำนวน 5 คน
=
9,000.00 บาท
6) จำนวน 1 วัน x จำนวน 3 ชม. x ชม.ละ 300.00 บาท x จำนวน 2 คน
=
1,800.00 บาท

หัวข้อ 1.2 ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ ( รวม 0.00 บาท )
-วันเวลาราชการ ( รวม 0.00 บาท )
-วันหยุดราชการ ( รวม 0.00 บาท )

หัวข้อ 1.3 ค่าตอบแทนอื่นๆ ( รวม 0.00 บาท )

หมวดที่ 2 หมวดค่าใช้สอย ( รวม 377,750.00 บาท )
หัวข้อ 2.1 ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ ( รวม 64,000.00 บาท )
-ค่ายานพาหนะ ( รวม 29,000.00 บาท )
1) จำนวน 1 ครั้ง x จำนวน 2 คน x ครั้งละ 2,250.00 บาท
=
4,500.00 บาท
2) จำนวน 1 ครั้ง x จำนวน 2 คน x ครั้งละ 3,000.00 บาท
=
6,000.00 บาท
3) จำนวน 1 ครั้ง x จำนวน 3 คน x ครั้งละ 2,000.00 บาท
=
6,000.00 บาท
4) จำนวน 1 ครั้ง x จำนวน 1 คน x ครั้งละ 3,500.00 บาท
=
3,500.00 บาท
5) จำนวน 1 ครั้ง x จำนวน 3 คน x ครั้งละ 3,000.00 บาท
=
9,000.00 บาท
-ค่าที่พัก ( รวม 35,000.00 บาท )
1) จำนวน 1 คืน x จำนวน 2 ห้อง x ห้องละ 1,000.00 บาท
=
2,000.00 บาท
2) จำนวน 1 คืน x จำนวน 30 ห้อง x ห้องละ 1,000.00 บาท
=
30,000.00 บาท
3) จำนวน 1 คืน x จำนวน 1 ห้อง x ห้องละ 1,000.00 บาท
=
1,000.00 บาท
4) จำนวน 1 คืน x จำนวน 2 ห้อง x ห้องละ 1,000.00 บาท
=
2,000.00 บาท
-ค่าเบี้ยเลี้ยง ( รวม 0.00 บาท )

หัวข้อ 2.2 ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม ( รวม 39,750.00 บาท )
1) จำนวน 2 มื้อ x มื้อละ 35.00 บาท x จำนวน 80 คน
=
5,600.00 บาท
2) จำนวน 2 มื้อ x มื้อละ 35.00 บาท x จำนวน 80 คน
=
5,600.00 บาท
3) จำนวน 1 มื้อ x มื้อละ 35.00 บาท x จำนวน 130 คน
=
4,550.00 บาท
4) จำนวน 2 มื้อ x มื้อละ 35.00 บาท x จำนวน 80 คน
=
5,600.00 บาท
5) จำนวน 4 มื้อ x มื้อละ 35.00 บาท x จำนวน 60 คน
=
8,400.00 บาท
6) จำนวน 2 มื้อ x มื้อละ 50.00 บาท x จำนวน 100 คน
=
10,000.00 บาท

หัวข้อ 2.3 ค่าอาหารกลางวัน/อาหารเย็น ( รวม 104,400.00 บาท )
1) จำนวน 1 มื้อ x มื้อละ 150.00 บาท x จำนวน 80 คน
=
12,000.00 บาท
2) จำนวน 1 มื้อ x มื้อละ 80.00 บาท x จำนวน 130 คน
=
10,400.00 บาท
3) จำนวน 2 มื้อ x มื้อละ 150.00 บาท x จำนวน 60 คน
=
18,000.00 บาท
4) จำนวน 1 มื้อ x มื้อละ 200.00 บาท x จำนวน 80 คน
=
16,000.00 บาท
5) จำนวน 1 มื้อ x มื้อละ 200.00 บาท x จำนวน 60 คน
=
12,000.00 บาท
6) จำนวน 1 มื้อ x มื้อละ 200.00 บาท x จำนวน 80 คน
=
16,000.00 บาท
7) จำนวน 1 มื้อ x มื้อละ 200.00 บาท x จำนวน 100 คน
=
20,000.00 บาท

หัวข้อ 2.4 ค่าจ้างเหมารถตู้ ( รวม 75,600.00 บาท )
- จำนวน 6 คัน x จำนวน 7 วัน x ราคา 1,800 บาท/คัน/วัน
=
75,600.00 บาท

หัวข้อ 2.5 ค่าจ้างเหมาปฏิบัติงาน ( รวม 0.00 บาท )

หัวข้อ 2.6 ค่าใช้สอยอื่นๆ ( รวม 94,000.00 บาท )
1) ค่าน้ำมันรถตู้เช่า
=
20,000.00 บาท
2) ค่าจ้างจัดพิมพ์เอกสารชุดความรู้
=
30,000.00 บาท
3) ค่าเช่าห้องประชุม (2ครั้ง*ครั้งละ7,000บาท)
=
14,000.00 บาท
4) ค่าจ้างเหมาจัดทำนิทรรศการ
=
30,000.00 บาท

หมวดที่ 3 หมวดค่าวัสดุ ( รวม 51,200.00 บาท )
หัวข้อ 3.1 วัสดุสำนักงาน ( รวม 16,000.00 บาท )
1) ค่าวัสดุสำนักงาน
1 x 16,000 บาท
=
16,000 บาท

หัวข้อ 3.2 วัสดุประชาสัมพันธ์ ( รวม 5,000.00 บาท )
1) ค่าวัสดุโฆษณาประชาสัมพันธ์
5 x 1,000 บาท
=
5,000 บาท

หัวข้อ 3.3 วัสดุคอมพิวเตอร์ ( รวม 5,000.00 บาท )
1) หมึกปริ้นเตอร์
2 x 2,500 บาท
=
5,000 บาท

หัวข้อ 3.4 วัสดุเชื้อเพลิง ( รวม 0.00 บาท )

หัวข้อ 3.5 ค่าวัสดุอื่นๆ ( รวม 25,200.00 บาท )
1) ค่าถ่ายเอกสาร
=
18,000.00 บาท
2) ค่าวัสดุในการอบรม (80ชิ้น*ชิ้นละ90บาท)
=
7,200.00 บาท

หมวดที่ 4 หมวดค่าครุภัณฑ์ ( รวม 0.00 บาท )


งบประมาณทั้งสิ้น 496,450.00 บาท