แบบเสนอโครงการบริการวิชาการแก่สังคม ประจำปีงบประมาณ 2561
คณะ/สำนัก/หน่วยงาน คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

ชื่อโครงการ โครงการส่งเสริมสุขภาพจิตครอบครัวในชุมชน ปีที่ 2
ลักษณะโครงการ การฝึกอบรม อบรมเชิงปฏิบัติการ
ความสอดคล้องกับมาตรการ / นโยบายของมหาวิทยาลัย
มาตรการ : สร้างเครือข่ายการบริการวิชาการกับหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย ในด้านสังคมสูงวัย ด้านการยกระดับคุณภาพการศึกษา ด้านการสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ และการเสริมสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มศักยภาพของชุมชนและสังคม
นโยบาย : การให้บริการวิชาการเพื่อเสริมสร้างสุขภาพอนามัยให้กับประชาชนในทุกช่วงวัย
ผู้รับผิดชอบ
ชื่อ - สกุล
คุณวุฒิ
ประสบการณ์
ตำแหน่ง/ความรับผิดชอบในโครงการ
นางสาวเกษร สายธนู คุณวุฒิ : ปริญญาโท
สาขา : การพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
ประสบการณ์ : -
ความเชี่ยวชาญ : -
หัวหน้าโครงการ

หลักการและเหตุผล
สุขภาพจิตเป็นการที่บุคคลรับรู้คุณค่าในตนเอง สามารถจัดการควบคุมตนเองได้อย่างเหมาะสม ปราศจากความกังวลไม่สมเหตุสมผล และสามารถเผชิญปัญหาหรือความเครียดได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ในด้านสังคม สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ ยอมรับและพึงพอใจในการใช้ชีวิตของตนเอง (Shives, L. R., 2012) เช่นเดียวกับ วาทินี สุขมาก (2557) กล่าวถึงลักษณะของผู้มีสุขภาพจิตดี ว่าเป็นผู้ที่สามารถเผชิญกับปัญหาต่างๆได้เป็นอย่างดีทั้งในสถานการณ์ที่ปกติและไม่ปกติและสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ ส่วนบุคคลที่มีสุขภาพจิตที่ผิดปกติ มักแสดงออกถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง มีผลต่อสมรรถภาพในการทำงาน รวมถึงความผิดปกติของความคิด และอารมณ์ จนถึงระดับที่อาจเป็นอันตรายต่อตนเองและผู้ใกล้ชิด (จุฑารัตน์ สถิรปัญญา และวัลลภา คชภักดี, 2551) ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพจิตของบุคคลสามารถแบ่งเป็นปัจจัยภายใน เช่นลักษณะนิสัย บุคลิกภาพ การจัดการปัญหา เป็นต้น ส่วนปัจจัยภายนอกและสภาพแวดล้อม เช่น ปัญหาสัมพันธภาพในครอบครัว เศรษฐกิจ ภาระหนี้สิน ปัญหาการเมือง การไม่มีที่อยู่อาศัย ปัญหาอาชญากรรมและสารเสพติด เป็นต้น โดยปัญหาสุขภาพจิตของบุคคลจะแตกต่างกันในแต่ละช่วงวัย ตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ และวัยสูงอายุ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเสี่ยงที่มีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาสุขภาพจิตที่พบได้บ่อย ได้แก่ ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้พิการ เป็นต้น เนื่องจากข้อจำกัดในการดำรงชีวิตเพิ่มมากขึ้นกว่าบุคคลทั่วไป จึงทำให้เกิดความเครียดหรือปัญหาสุขภาพจิตอื่นได้ง่ายกว่าบุคคลทั่วไป การส่งเสริมสุขภาพจิตสำหรับกลุ่มเสี่ยงเป็นส่วนสำคัญที่จะป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพจิตให้ลดน้อยลงได้ ในปัจจุบันปัญหาสุขภาพจิตและการเจ็บป่วยทางจิตกลายเป็นอีกปัญหาที่สำคัญของประเทศ ส่วนหนึ่งอาจเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่แตกต่างจากเดิม ทำให้บุคคลเกิดความเครียดได้ง่ายและเจ็บป่วยทางจิต สถิติการเจ็บป่วยด้วยโรคทางจิตเวช 5 อันดับแรกที่พบในประเทศไทย ได้แก่ โรคซึมเศร้า โรคจิตเภท โรควิตกกังวล โรคจิตเวชเนื่องมาจากสารเสพติด และโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว ตามลำดับ (รายงานสถิติของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข, ค้นเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2559) นอกจากนี้ สถิติผู้ป่วยนอกจิตเวชที่มารับบริการของหน่วยบริการในสังกัดกรมสุขภาพจิต ปีงบประมาณ พ.ศ. 2555-2557 พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 1,076,155 1,109,183 และ 1,082,407 คน ตามลำดับ ซึ่งจะเห็นว่า มีจำนวนเพิ่มขึ้นและลดลงบ้าง แต่ถือว่าเป็นจำนวนที่สูง สำหรับสถิติผู้ป่วยนอก ปี 2557 เฉพาะหน่วยงานในสังกัดกรมสุขภาพจิตที่เป็นประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี พบว่าเป็นโรคจิต 5,805 คน โรคซึมเศร้า 1,736 คน และพยายามฆ่าตัวตาย 14 คน นอกจากนี้ยังพบว่าเป็นโรควิตกกังวล จำนวน 1,139 คน ซึ่งถือว่ามีจำนวนไม่น้อยเลย ทั้งนี้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 9 ได้เน้นให้ประชาชนได้รับบริการทางสุขภาพ ทั้งด้านการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกัน การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสภาพ อย่างได้มาตรฐาน เสมอภาคและเท่าเทียมกัน การป้องกันหรือลดโอกาสในการเกิดปัญหาสุขภาพจิตหรือการเจ็บป่วยทางจิตจึงเป็นสิ่งที่บุคลากรทางสาธารณสุขและผู้เกี่ยวข้องต้องตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมป้องกันเพื่อลดความรุนแรงของปัญหาและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เห็นความสำคัญของประเด็นที่กล่าวมาข้างต้น จึงประสงค์จะจัดโครงการส่งเสริมสุขภาพจิตในชุมชนครั้งแรกในปีงบประมาณ 2560 โดยพื้นที่ในการดำเนินการคือชุมชนเทศบาลตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี สำหรับโครงการส่งเสริมสุขภาพจิตในชุมชน ปีที่ 2 นี้ มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ในการดำเนินการเป็นชุมชนเทศบาลตำบลศรีไค อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งชุมชนเทศบาลตำบลศรีไค เป็นชุมชนกึ่งเมือง มีทั้งหมด 11 หมู่บ้าน จำนวน 1,435 หลังคาเรือน จำนวนประชากร 6,785 คน(ที่มา : ฐานข้อมูล JHCIS วันที่ 31 มีนาคม 2557) เพราะเป็นอีกหนึ่งพื้นที่บริการของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยคาดหวังโครงการนี้ จะเกิดประโยชน์ในการส่งเสริมป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพจิตในชุมชนได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นพันธกิจในการให้บริการวิชาการแก่สังคมเป็นพันธกิจที่สำคัญของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ โครงการมีการบูรณาการกับการเรียนการสอนกับรายวิชาสุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวช 2 สำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 3 เพื่อให้นักศึกษาได้การเรียนรู้บทบาทพยาบาลในการส่งเสริมสุขภาพจิตในชุมชน

วัตถุประสงค์
1.เพื่อให้ความรู้ในการส่งเสริมป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพจิตแก่ประชาชนในชุมชน

กลุ่มเป้าหมาย
คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ
1. ประชาชนทั่วไป จำนวน 100 คน 2. ผู้นำชุมชน อสม จำนวน 25 คน 3. นักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 จำนวน 85 คน 4. อาจารย์ และบุคลากร จำนวน 10 คน
จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ
240 คน

การดำเนินโครงการ (ขั้นตอนหรือวิธีการดำเนินงานโครงการฯ)
1. กิจกรรมและวิธีดำเนินการ
-ไม่มีข้อมูล

2. แผนการดำเนินงาน (ที่สัมพันธ์กับกิจกรรมดำเนินงาน)
กิจกรรม
2560
2561
รวมเงิน (บาท)
ไตรมาสที่ 1
ไตรมาสที่ 2
ไตรมาสที่ 3
ไตรมาสที่ 4
ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย.
1.ขั้นเตรียมการ - เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ - ประสานงานผู้เกี่ยวข้อง - ประชาสัมพันธ์โครงการ - -- --- 0.00
2.ขั้นดำเนินการ จัดกิจกรรม ดังนี้ ให้ความรู้เกี่ยวสุขภาพจิต การประเมินคัดกรองสุขภาพจิตการส่งเสริมป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพจิต โรคจิตเวชที่สำคัญ --- --- - --- 64,000.00
3.3.ขั้นสรุปและรายงาน ประเมินผลโครงการ จัดทำรายงาน --- --- --- -- 1,000.00

ระยะเวลาการดำเนินการ
ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2560 - 30 กันยายน พ.ศ. 2561 รวมเวลา 365 วัน

ร่างกำหนดการดำเนินงาน
วัน/เดือน/ปี
เวลา
กิจกรรม / หัวข้อ
วิทยากร

ผลที่คาดว่าจะได้รับในการดำเนินโครงการฯ
ด้านเศรษฐกิจ : -
ด้านสังคม : 1.ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพจิตของตนเอง และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน 2.ชุมชนได้รับการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมป้องกันสุขภาพจิต 3.นักศึกษาพยาบาลได้เรียนรู้บทบาทการส่งเสริมป้องกันสุขภาพจิตในชุมชน 4.อาจารย์ได้ให้บริการวิชาการแก่สังคมตามเชี่ยวชาญ และพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน
ด้านสิ่งแวดล้อม : -
ด้านอื่นๆ : -

ตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ
ตัวชี้วัด
หน่วย
ค่าเป้าหมาย
จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ
คน
192
ความพึงพอใจของผู้ร่วมโครงการ
ร้อยละ
80
ผู้ร่วมโครงการที่นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
ร้อยละ
0
ระดับความรู้ที่เพิ่มขึ้นหลังจากร่วมโครงการ
มากกว่าหรือเท่ากับ 1
ความคุ้มค่าของงบประมาณต่อผู้ร่วมโครงการ
-

ตัวชี้วัดด้านประกันคุณภาพ
แผนการใช้ประโยชน์จากการบริการวิชาการ
การใช้ประโยชน์ในการพัฒนานักศึกษา


การใช้ประโยชน์กับชุมชนหรือสังคม


แผนการบูรณาการกับการเรียนการสอน
แผนบูรณาการการเรียนการสอน
ลักษณะการบูรณาการ
ตัวชี้วัดความสำเร็จ
วิชา สุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวช 2
หลักสูตร พยาบาลศาสตรบัณฑิต
นักศึกษาชั้นปี : 3
การนำเนื้อหาของการบริการวิชาการเข้าสอดแทรกในสาระวิชาที่ทำการสอน
การนำนักศึกษาออกพื้นที่เพื่อร่วมให้บริการวิชาการตามแผนงานที่กำหนด จำนวนนักศึกษาร่วมกิจกรรม มากกว่าร้อยละ 90
การมอบหมายงานให้นักศึกษาทำโครงการจากปัญหาของการให้บริการวิชาการ นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทในการส่งเสริมสุขภาพจิตในชุมชนเพิ่มขึ้น มากกว่าร้อยละ 80

การติดตามและประเมินผล
รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานทุก 3 เดือน ให้คณะ และมหาวิทยาลัยทราบ ตามระบบที่มหาวิทยาลัยกำหนด

การประเมินและรายงานผลการดำเนินงาน
- ส่งรายงานผลการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์ตามรูปแบบที่มหาวิทยาลัยกำหนด ให้กับคณะและมหาวิทยาลัย จำนวน 1 ฉบับ ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ดำเนินโครงการแล้วเสร็จ
- ส่งรายงานทางการเงินให้กับคณะและมหาวิทยาลัย ภายใน 45 วัน นับจากวันที่ดำเนินโครงการแล้วเสร็จ

รายละเอียดงบประมาณ
หมวดที่ 1 หมวดค่าตอบแทน ( รวม 0.00 บาท )
หัวข้อ 1.1 หมวดค่าตอบแทนวิทยากร ( รวม 0.00 บาท )
-วิทยากรภายนอก ( รวม 0.00 บาท )
-วิทยากรภายใน ( รวม 0.00 บาท )

หัวข้อ 1.2 ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ ( รวม 0.00 บาท )
-วันเวลาราชการ ( รวม 0.00 บาท )
-วันหยุดราชการ ( รวม 0.00 บาท )

หัวข้อ 1.3 ค่าตอบแทนอื่นๆ ( รวม 0.00 บาท )

หมวดที่ 2 หมวดค่าใช้สอย ( รวม 46,400.00 บาท )
หัวข้อ 2.1 ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ ( รวม 0.00 บาท )
-ค่ายานพาหนะ ( รวม 0.00 บาท )
-ค่าที่พัก ( รวม 0.00 บาท )
-ค่าเบี้ยเลี้ยง ( รวม 0.00 บาท )

หัวข้อ 2.2 ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม ( รวม 14,400.00 บาท )
1) จำนวน 4 มื้อ x มื้อละ 30.00 บาท x จำนวน 120 คน
=
14,400.00 บาท

หัวข้อ 2.3 ค่าอาหารกลางวัน/อาหารเย็น ( รวม 24,000.00 บาท )
1) จำนวน 2 มื้อ x มื้อละ 100.00 บาท x จำนวน 120 คน
=
24,000.00 บาท

หัวข้อ 2.4 ค่าจ้างเหมารถตู้ ( รวม 0.00 บาท )

หัวข้อ 2.5 ค่าจ้างเหมาปฏิบัติงาน ( รวม 0.00 บาท )

หัวข้อ 2.6 ค่าใช้สอยอื่นๆ ( รวม 8,000.00 บาท )
1) ค่าถ่ายเอกสาร จัดทำรูปเล่มรายงาน
=
1,000.00 บาท
2) ค่าจ้างเหมารถรับส่งผู้เข้าร่วมโครงการ 5 คัน x 600 x 2 วัน
=
6,000.00 บาท
3) ค่าไวนิล
=
1,000.00 บาท

หมวดที่ 3 หมวดค่าวัสดุ ( รวม 18,600.00 บาท )
หัวข้อ 3.1 วัสดุสำนักงาน ( รวม 8,600.00 บาท )
1) ค่าวัสดุสำนักงาน
1 x 6,600 บาท
=
6,600 บาท
2) ค่าถ่ายเอกสาร
2,000 x 1 บาท
=
2,000 บาท

หัวข้อ 3.2 วัสดุประชาสัมพันธ์ ( รวม 0.00 บาท )

หัวข้อ 3.3 วัสดุคอมพิวเตอร์ ( รวม 0.00 บาท )

หัวข้อ 3.4 วัสดุเชื้อเพลิง ( รวม 0.00 บาท )

หัวข้อ 3.5 ค่าวัสดุอื่นๆ ( รวม 10,000.00 บาท )
1) ค่าวัสดุโครงการ
=
10,000.00 บาท

หมวดที่ 4 หมวดค่าครุภัณฑ์ ( รวม 0.00 บาท )


งบประมาณทั้งสิ้น 65,000.00 บาท