คณะ/สำนัก/หน่วยงาน คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ชื่อโครงการ ชุมชนกับรูปแบบการฟื้นฟูและอนุรักษ์ห้วยตองแวด บ้านโพธิ์ตก ตำบลโพธิ์ใหญ่ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ลักษณะโครงการ การจัดนิทรรศการ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ความสอดคล้องกับมาตรการ / นโยบายของมหาวิทยาลัย | |||
ผู้รับผิดชอบ |
นางสาวญาเรศ อัครพัฒนานุกูล | คุณวุฒิ : ปริญญาโท สาขา : รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการปกครอง |
ประสบการณ์ : - ความเชี่ยวชาญ : ปรัชญาการเมือง การเมืองไทยสมัยใหม่ |
|||||||||||||
นางสาวเพียงกมล มานะรัตน์ | คุณวุฒิ : ปริญญาโท สาขา : การปกครอง |
ประสบการณ์ : - ความเชี่ยวชาญ : การเมืองท้องถิ่น และ นโยบายสาธารณะ |
|||||||||||||
นางสาวศิริพร ยศมูล | คุณวุฒิ : ปริญญาโท สาขา : รัฐประศาสนศาสตร์ |
ประสบการณ์ : - ความเชี่ยวชาญ : การคลังท้องถิ่นนโยบายสาธารณะการบริหารทรัพยากรมนุษย์ |
|||||||||||||
นายเอกราช บุญเริง | คุณวุฒิ : ปริญญาตรี สาขา : - |
ประสบการณ์ : - ความเชี่ยวชาญ : - |
หลักการและเหตุผล วิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนชนบทที่มีการตั้งถิ่นฐานตามสายน้ำและลำห้วยนั้น ต่างมีความเชื่อที่เหมือนกันว่า สายน้ำเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับการดำรงชีวิต ประโยชน์ของสายน้ำนอกเหนือจากการดื่มกิน และชะล้างในชีวิตประจำวันแล้ว ยังใช้เป็นแหล่งทำมาหากิน ทำการเพาะปลูก จับปลาและสัตว์น้ำเพื่อบริโภค ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรม ตามความเชื่อและวัฒนธรรมของชุมชนริมสายน้ำ สายน้ำและลำห้วยจึงเป็น ?ประดุจโลหิตที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนตามริมน้ำ? แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสายน้ำกับชุมชนดังกล่าว ได้เปลี่ยนแปลงเมื่อการพัฒนาเพื่อสร้างความเป็นเมืองได้คืบคลานและเข้าแทนที่สังคมชนบท สายน้ำและลำห้วยหลายสายต้องกลายเป็นพื้นที่รองรับน้ำเสียจากกิจกรรมประจำวันของผู้คนที่เพิ่มปริมาณขึ้น จากที่พักอาศัย โรงงานและธุรกิจต่างๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กับการขยายตัวของพื้นที่เมือง ชุมชนหลายแห่งมีความสัมพันธ์ที่ห่างเหินจากสายน้ำ ด้วยเหตุผล ประการแรก วิถีชีวิตที่เปลี่ยนสู่เมือง นำไปสู่รูปแบบการทำมาหากินที่ห่างไกลจากลำห้วยและสายน้ำ เหตุผลที่สองคือ ลำห้วยและสายน้ำกลายเป็นน้ำที่ปนเปื้อน เน่าเสียจากชุมชน จนชุมชนไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ กลายเป็นแหล่งมลพิษที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อมของชุมชน น้ำเสียจากชุมชนที่กลายเป็นชุมชนเมืองจึงกลายเป็นปัญหาสำคัญ
ห้วยตองแวดนั้น เป็นแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่ไหลผ่านหลายหมู่บ้าน ไหลมาจากบ้านศรีษะกระบือ ตำบลคูเมือง ผ่านบ้านศรีไค บ้านแมด ตำบลเมืองศรีไค บ้านบ้งมั่ง บ้านลิ้นไม้ บ้านโพธิ์ตก บ้านโพธิ์ออก ตำบลโพธิ์ใหญ่ การใช้ประโยชน์จากห้วยตองแวดของแต่ละหมู่บ้านตั้งแต่บ้านศรีไคเหมือนกันโดยแต่ละหมู่บ้านมีการสร้างฝายกักน้ำเพื่อให้มีน้ำใช้ประโยชน์ในชุมชนของตนเองตลอดทั้งปี ประมาณเดือนเมษายนของทุกปี แต่ละชุมชนจะมีประเพณีลงจับปลาในห้วยตองแวดเพื่อหารายได้เข้าชุมชน แม้ห้วยตองแวดจะมีความอุดมสมบูรณ์ลดน้อยลงมาก หาปลาได้ยากขึ้น แต่ประเพณีดังกล่าวของทุกชุมชนของตำบลโพธิ์ใหญ่ และเทศบาลตำบลเมืองศรีไคยังสืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากประเพณีดังกล่าว บ้านโพธิ์ตกยังมีประเพณีที่สำคัญในช่วงเดือนมีนาคม คือการนิมนต์พระไปฉันเพลริมห้วย โดยชาวบ้านจะร่วมกันไปลงหาปลาในลำห้วยและนำมาประกอบอาหารถวายเพลและรับประทานอาหารริมห้วยร่วมกัน
ชุมชนโพธิ์ตก ตำบลโพธิ์ใหญ่ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบล เป็นอีกชุมชนหนึ่งที่ลำห้วยตองแวด ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติของชุมชน ต้องกลายเป็นพื้นที่รองรับน้ำเสียจากชุมชนและประสบปัญหามลภาวะเนื่องจากการพัฒนาและการขยายตัวของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี นับตั้งแต่การก่อตั้งมหาวิทยาลัยในปี พ.ศ. 2533 จนถึงปัจจุบัน ชุมชนบ้านโพธิ์ตก ได้รับผลกระทบทั้งในส่วนของการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน จะเห็นได้จากการศึกษาและสำรวจของ ปิยะนุช สิงห์แก้ว (2550) ถึงผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงของการตั้งมหาวิทยาลัยใกล้ชุมชน โดยเลือกศึกษาชุมชนรอบมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พบว่า นับแต่มีการตั้งมหาวิทยาลัย ชุมชนรายล้อมได้พัฒนาสู่ความเป็นเมือง เกิดการเปลี่ยนแปลงและส่งผลกระทบในหลายๆ ด้าน ได้แก่ปัญหาการส่งเสียงดังเนื่องจากการดื่มสุราของนักศึกษา และปัญหาน้ำเน่าเสียที่เกิดจากเจ้าของหอพักซึ่งข้อมูลจากการสำรวจหอพัก บ้านพัก ห้องเช่ามีจำนวนกว่า 33 แห่งรวมห้องพักมากกว่า 500 ห้อง ได้ปล่อยน้ำเสียลงสู่ถนนในชุมชนซึ่งมีตั้งแต่น้ำใช้ น้ำอาบ จนเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายและส่งกลิ่นเหม็นแก่ชาวบ้านที่อยู่ติดกับหอพัก (ปิยะนุช สิงห์แก้ว: 2550) ดังนั้น น้ำเสียจากชุมชนรอบมหาวิทยาลัยจึงไหลลงสู่ผิวดินและแหล่งน้ำธรรมชาติห้วยตองแวด ซึ่งเป็นลำห้วยที่ไหลผ่านมหาวิทยาลัยและชุมชนที่อยู่รายล้อมมหาวิทยาลัยในเขตเทศบาลเมืองศรีไค องค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ใหญ่ และอีกหลายชุมชนจนถึงปากลำน้ำโดม นอกจากนี้ ยังพบว่าปัจจุบันปริมาณหอพักและธุรกิจที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีตามจำนวนประชากรนักศึกษาที่เพิ่มขึ้น ยิ่งส่งผลกระทบต่อมลภาวะ การปนเปื้อนและคุณภาพของน้ำใต้ดินที่ไหลลงสู่ลำห้วยตองแวด เนื่องจากยังไม่มีการจัดระบบการจัดการน้ำเสียจากหอพักและธุรกิจต่างๆ ที่อยู่รายล้อมชุมชนรอบมหาวิทยาลัย
อย่างไรก็ตาม ชุมชนโพธิ์ตกได้พยายามแก้ไขปัญหาสภาพลำห้วยตองแวดด้วยการ ร้องเรียนไปยังฝ่ายปกครอง เทศบาลศรีไค องค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ใหญ่ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี รวมถึงกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีการตอบรับต่อการแก้ปัญหาจากหน่วยงานที่แตกต่างกัน กล่าวคือ ส่วนเทศบาลศรีไคได้จัดสรรงบสำหรับการขุดลอกคลองห้วยตองแวด องค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ใหญ่ได้ให้งบประมาณทำฝายกั้นน้ำ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีได้แจ้งต่อข้อร้องเรียนว่าน้ำเสียที่ปนเปื้อนในลำห้วยตองแวด ไม่ได้เป็นน้ำเสียที่มาจากมหาวิทยาลัยเนื่องจากมีบ่อบำบัดน้ำเสียแล้ว ส่วนกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้นำตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้รับการตอบรับผลของการตรวจสภาพน้ำ จึงยังไม่สามารถเห็นผลเชิงรูปธรรมของการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในลำห้วยตองแวด
จากสภาพปัญหาและสถานการณ์มลภาวะน้ำเสียที่ถูกปล่อยลงในลำห้วยตองแวด รวมถึงการปนเปื้อนสารเคมีจากน้ำเสียในชุมชนที่แทรกซึมลงสู่น้ำใต้ดินและไหลลงสู่ลำห้วยตองแวด จนกลายเป็นปัญหาคุณภาพน้ำ จึงมีความรุนแรงมากขึ้น ผนวกกับความตระหนักของผู้ใหญ่บ้านและกลุ่มผู้นำชุมชนที่เห็นว่า ?ลำห้วยตองแวดเป็นลำห้วยที่ไหลผ่านหมู่บ้านมากถึง 12 หมู่บ้าน ถ้าไม่มีใครลุกขึ้นมาเป็นตัวตั้งตัวตีในการแก้ปัญหา สักวันหนึ่งจะไม่มีใครรู้จักห้วยตองแวด เด็กๆและเยาวชนจะไม่รู้จักห้วยตองแวด ไม่เห็นความสำคัญ และสุดท้ายคือห้วยตองแวดจะถูกทิ้งให้เป็นห้วยเน่าและไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อีกต่อไป? จึงเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ทุกหน่วยงานและทุกฝ่ายต้องหันมาให้ความร่วมมือกันในการแก้ปัญหา ทั้งในส่วนของหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานเอกชน สถาบันการศึกษา ชุมชนและสมาชิกในชุมชน ฉะนั้นจึงเห็นควรเสนอให้มีโครงการชุมชนกับรูปแบบการฟื้นฟูและอนุรักษ์ห้วยตองแวด บ้านโพธิ์ตก ตำบลโพธิ์ใหญ่ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเป็นการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนความรู้กับชุมชนในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ห้วยคลองแวดอันจะนำไปสู่การสร้างสุขภาวะให้กับชุมชนในที่สุด
|
|
วัตถุประสงค์ | |
กลุ่มเป้าหมาย |
|
ประชาชนผู้อยู่อาศัยในพื้นที่บ้านโพธิ์ตก ตำบลโพธิ์ใหญ่ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี |
|
การดำเนินโครงการ (ขั้นตอนหรือวิธีการดำเนินงานโครงการฯ)
ยังไม่ได้กรอกกิจกรรมและวิธีดำเนินการ |
ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ||
1. | 63,700.00 |
ระยะเวลาการดำเนินการ |
ร่างกำหนดการดำเนินงาน |
ผลที่คาดว่าจะได้รับในการดำเนินโครงการฯ |
||
ตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ |
จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ | ||
ความพึงพอใจของผู้ร่วมโครงการ | ||
ผู้ร่วมโครงการที่นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ | ||
ระดับความรู้ที่เพิ่มขึ้นหลังจากร่วมโครงการ | ||
ความคุ้มค่าของงบประมาณต่อผู้ร่วมโครงการ |
ตัวชี้วัดด้านประกันคุณภาพ
|
การติดตามและประเมินผล |
การประเมินและรายงานผลการดำเนินงาน |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รายละเอียดงบประมาณ
งบประมาณทั้งสิ้น 0.00 บาท
|